svasdssvasds

Digital Tracing แอปพลิเคชันแยกกลุ่มเสี่ยงติด COVID-19

Digital Tracing แอปพลิเคชันแยกกลุ่มเสี่ยงติด COVID-19

Digital Tracing แอปพลิเคชันแยกกลุ่มเสี่ยงติดโควิด 19 ที่จะช่วยเพิ่มการคัดแยกเสี่ยงติดโควิด ดีกว่าเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์

แอปพลิเคชันแยกกลุ่มเสี่ยง

Digital Tracing แอปพลิเคชันแยกกลุ่มเสี่ยงติด COVID-19 

โครงการ “สนับสนุนข้อมูลวิจัยเชิงลึกด้านเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยข้อมูล ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ได้ศึกษาโอกาสของการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 จากการเก็บข้อมูลผู้แพร่เชื้อและผู้ได้รับเชื้อไวรัส จำนวน 40 คู่

การวิจัยพบว่า ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐาน หรือ R0 ที่เกิดขึ้นจากการแพร่เชื้อจากผู้ไม่แสดงอาการสูงถึง 0.9 ทีมวิจัยจึงได้เริ่มศึกษาความจำเป็นของการใช้ “Digital tracing” ระบบติดตามผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อจากผู้ป่วยทันที

ผลการศึกษาพบว่า ในระยะเวลา 3 วันที่ติดตามเพื่อกักและโอกาสการควบคุมโรคแบบธรรมดา เช่น ด้วยวิธีการ สอบถามประวัติการเดินทาง การพักอาศัย การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ฯลฯ สำเร็จน้อยกว่าการใช้ระบบ Digital Tracing ช่วยถึง 50 เปอร์เซ็นต์ การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการสืบหาผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก

Digital Tracing แอปพลิเคชันแยกกลุ่มเสี่ยงติด COVID-19

ปัจจุบันทั่วโลกมีการใช้อยู่ 2 แอปพลิเคชัน คือ Pan-European Privacy Preserving Proximity Tracing (PEPP-PT) ของกลุ่มประเทศยุโรป และ Trace Together ของประเทศสิงคโปร์

เทคโนโลยีที่ 2 รูปแบบแตกต่างในรายละเอียดแต่ใช้หลักการเดียวกัน คือ

1.ใช้สัญญาณบลูทูธ (Bluetooth) บนโทรศัพท์มือถือในการตรวจหาว่าใครอยู่ในรัศมี 2–10 เมตร ในระยะเวลาที่กำหนด

2.ทำการบันทึกรหัสประจำตัวของคนที่อยู่ใกล้ ไม่บันทึกชื่อจริง ไม่เก็บตำแหน่งบุคคล และทำการบันทึกข้อมูลไว้ที่โทรศัพท์มือถือของแต่ละคน

3.เมื่อระบบส่วนกลางพบว่ามีผู้ป่วย เจ้าหน้าที่จะติดต่อไปที่ผู้ป่วย ผู้ป่วยส่งข้อมูลในมือถือของตนไปยังส่วนกลาง โดยผู้ป่วยต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูล

ทีมวิจัย สกสว. วิเคราะห์ว่า สำหรับในไทย การพัฒนาแอปพลิเคชัน Digital Tracing น่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน แต่ประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดของโรคนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือที่เราคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน

Digital Tracing แอปพลิเคชันแยกกลุ่มเสี่ยงติด COVID-19

แอป Trace Together เปิดตัวในประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 มีผู้ดาวน์โหลดใช้แล้ว 1 ล้านคน ซึ่งตามหลักการแล้วต้องมีผู้ใช้ 60 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 4 ล้านคน จึงจะมีประสิทธิภาพในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ

อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งไม่มั่นใจในระบบความปลอดภัยเรื่องการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และยังไม่ไว้วางใจที่จะยอมใช้งาน

อีกส่วนสำคัญที่จะทำให้การใช้แอปนี้มีประสิทธิภาพ คือหน่วยงานของรัฐที่มีข้อมูลผู้ป่วย หากไม่มีข้อมูลเหล่านี้แล้ว ก็จะทำให้การติดตามผู้ป่วยเป็นไปได้ยากมาก ทั้งนี้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิส่วนบุคคลอาจต้องยืดหยุ่นกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วย

related