Breaking News : ออกหมายจับ “แม่มณีและแฟนหนุ่ม” ฐานความผิด 3 ข้อหา
ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันนี้(29ต.ค.) ศาลอาญา อนุมัติออกหมายจับ “แม่มณีและแฟนหนุ่ม” ฐานความผิด 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ขณะที่ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สั่งชุดสืบสวนออกไล่ล่า และแกะรอยแล้ว เพื่อเร่งนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว
พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ผบก.ปอศ.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอกภาดล จันทร์ดอน ผู้กำกับการ5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผกก.5บก.ปอศ.) พันตำรวจโทถิรภัทร ภัททิยธนสาร รอง ผู้กำกับ5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (รอง ผกก.5.บก.ปอศ.) เดินทางไปที่ศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี และ นายเมธี ชิณภา (แฟนหนุ่ม) เบื้องต้นศาลได้พิเคราะห์ตามพยานหลักฐานก่อนเห็นควรออกหมายจับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ (แม่มณี) และนายเมธี ชิณภา ตามหมายจับ ของศาลอาญาที่ 1623-1624 ลงวันที่ 29 ต.ค. ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
เกี่ยวกับคดีนี้ พันตำรวจเอกภาดล จันทร์ดอน ผู้กำกับการ5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผกก.5บก.ปอศ.) เปิดเผยว่า สำหรับคดีแชร์ลูกโซ่แม่มณีนั้น เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 120 ราย ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดยในเบื้องต้นทาง พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วกว่า 20 ปาก ซึ่งพบว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า 35 ล้านบาท ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ซึ่งจากการสอบปากคำพบว่า ผู้เสียหายนั้นได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหาทั้งสองราย ในส่วนของความสัมพันธ์พบว่าทั้งสองรายนั้นเกี่ยวข้องในฐานะเป็นแฟนกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดนั้น พลตำรวจตรีไมตรี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยแล้ว พร้อมทั้งเร่งรัดให้ติดตามผู้กระทำความผิดในคดีนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากในหลายท้องที่ได้รับความเดือดร้อนและเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก
