A Hidden Life หนังแห่งปีของผู้ที่ไม่ยอมจำนนต่อ เผด็จการ
A Hidden Life หนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับ เทอเรนซ์ มาลิค ที่นำเสนอถึงคนที่ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจของ เผด็จการ นาซี ในช่วงสงครามโลกที่ 2 แม้เขาและครอบครัวจะต้องตกอยู่ในชะตากรรมที่ลำบาก
ในช่วงที่โรงหนังพึ่งฟื้นตัวจากโควิด 19 ก็ยังมีหนังดีๆ ให้ดูกันเรื่อยๆ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นหนังเก่าที่เคยฉายมาแล้วก็ตาม แต่โรงหนังอย่าง House Samyan ก็ยังนำหนังใหม่ๆ มาให้เราชมกัน หนึ่งในนั้นก็คือ "A Hidden Life" หนังใหม่ของผู้กำกับสุดติสต์อย่าง เทอเรนซ์ มาลิค ที่ครั้งนี้เขากลับมากับหนังใหม่ ที่อิงจากเรื่องจริงเกี่ยวกับ เผด็จการ นาซี ในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2
หนังเล่าถึง ฟรันซ์ เจเกอร์สแตตเทอร์ ชาวไร่สัญชาติออสเตรีย ถูกเรียกตัวไปเกณฑ์ทหารเพื่อร่วมรบ สงครามโลกครั้งที่ 2 ให้กับกองทัพนาซี โดยมี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นผู้นำ ด้วยความที่เขามีหัวจิตหัวใจที่ยิ่งใหญ่ มีอุดมการณ์ที่ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง เกินกว่าจะต้องยอมก้มหัวให้ เผด็จการ อย่างฮิตเลอร์ และสุดท้าย เขาและครอบครัวก็ถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านรังเกียจเขาและทุกๆ คนในครอบครัว
การทำตัวเป็นกบฏของฟรันซ์ ทำให้เขาไม่เหลือใครเลย ไม่มีใครมาช่วยเขาทำไร่ทำสวน ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย นอกเสียจาก ฟรานซิสกา เจเกอร์สแตตเทอร์ ภรรยาและลูกสาวทั้งสาม พวกเธอคอยอยู่เคียงข้างและเชื่อมั่นในตัวเขา
หนังเรื่องนี้อาจจะเป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของปีนี้เลยก็ว่าได้ เป็นหนังที่เน้นการเล่าด้วยภาพมากกว่าบท ด้วยความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง คนดูจะสามารถเข้าถึงอารมณ์และจิตใจของนักแสดงได้ แม้จะมีบทพูดที่ไม่ได้เยอะเหมือนกับหนังของมาร์ติน สกอร์เซซี่ แต่ด้วยสไตล์การทำหนังของ เทอเรนซ์ มาลิค ภาพคือหัวใจในการทำหนังของเขา และสามารถสื่อสารออกมาได้ชัดเจน
ชื่นชอบตัวละคร (ที่มาจากเรื่องจริง) นักแสดงสามารถถ่ายทอด อารมณ์และความรู้สึกที่น่าทึ่ง คนที่มีอุดมการณ์และความเป็นความตายที่กำลังจะมาถึง มันมีความรู้สึกแบบนี้นี่เอง คนดูจะรู้สึกเจ็บปวดและรักตัวกลัวตายเหมือนกับตัวละครเช่นกัน
ปกติแล้วในยุคหลังๆ เทอเรนซ์ มาลิค มักทำหนังคล้ายๆ ทำบทกวี โดยมีภาพเปรียบเสมือนภาพจิตรกรรมที่สวยงามด้วยธรรมชาติ มีการออกแบบภาพ เน้นอิริยาบถของตัวละคร แต่การดำเนินเรื่อง มักสับสน งง อาจจะทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เช่น The Tree of Life , To The Wonder , Song to Song เป็นต้น
แต่สำหรับ A Hidden Life กลับสามารถทำให้คนดูเข้าใจในสถานการณ์ของหนังได้ ทำให้คนดูอินไปกับอารมณ์ของตัวละคร และยังคงออกแบบการถ่ายภาพได้สวยงามจะว่าไป เรื่องนี้คือส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดของหนังสไตล์ เทอเรนซ์ มาลิค ก็ว่าได้ แนะนำให้ไปดูกัน (หนัง 3 ชั่วโมงนะ เตรียมตัวให้พร้อม)
[youtube https://www.youtube.com/watch?v=AfcQs-ff75g]
