svasdssvasds

ไขปริศนา ทำไมคนถึงกลัว คำทำนาย "แผ่นดินไหวญี่ปุ่น" ของนักเขียนการ์ตูนดัง

ไขปริศนา ทำไมคนถึงกลัว คำทำนาย "แผ่นดินไหวญี่ปุ่น" ของนักเขียนการ์ตูนดัง

ไขปริศนา ทำไมคนถึงกลัว คำทำนาย “แผ่นดินไหวญี่ปุ่น” ของนักเขียนการ์ตูนชื่อดัง แม้คำทำนายดังกล่าวไม่มีมูลความจริงทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันยังไม่สามารถพยากรณ์แผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระแสข่าวและคำทำนายที่ถูกแชร์ต่อกันไปอย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียล เกี่ยวกับคำพยากรณ์จากหนังสือมังงะ "อนาคตที่ฉันเห็น" ที่ทำนายว่า แผ่นดินไหวจะเขย่าญี่ปุ่น วันที่ 5 กรกฎาคม 2568 จนเกิดเป็นกระแสวิจารณ์ไปทั่วโลก

ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ นักท่องเที่ยวเริ่มยกเลิก รวมถึงทบทวนอีกครั้ง ว่าจะไปญี่ปุ่นหรือไม่ โดยสายการบินอย่าง Greater Bay Airlines ถึงกับต้องลดจำนวนเที่ยวบินจากฮ่องกงไปญี่ปุ่นลง 3-4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เนื่องจากความต้องการที่ลดลงอย่างมาก โดยยอดจองตั๋วจากฮ่องกงลดลงถึง 30% และบางเส้นทางเช่น โทกุชิมะ มียอดจองลดลงถึง 50% ในเดือนพฤษภาคม

คาดการณ์ว่า อาจทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการสูญเสียอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดการณ์ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอยู่ที่ 5.6 แสนล้านเยน หรือกว่า 1 แสนล้านบาท

ที่มา : มังงะพยากรณ์จากความฝัน 

จุดเริ่มต้นของกระแสคำพยากรณ์นี้มาจาก เรียว ทัตสึกิ อดีตนักวาดการ์ตูนมังงะหญิงวัย 70 ปี ที่อ้างว่าเธอมี "ความฝันเชิงพยากรณ์" มาเกือบ 50 ปีแล้ว เธอเริ่มบันทึกนิมิตและความฝันของเธอลงในสมุดบันทึกในช่วงต้นทศวรรษ 1980

ต่อมาในปี 1999 เธอได้ตีพิมพ์มังงะชื่อ "อนาคตที่ฉันเห็น" (Watashi ga Mita Mirai หรือ The Future That I Saw) ซึ่งอ้างอิงจากบันทึกความฝันเหล่านั้น

มังงะดังกลายเป็นกระแสโด่งดังหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และคลื่นยักษ์สึนามิถล่มญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 เพราะ บนหน้าปกของมังงะ "อนาคตที่ฉันเห็น" ฉบับปี 1999 มีข้อความระบุว่า "มีนาคม 2011 ภัยพิบัติครั้งใหญ่" ซึ่งตรงกันกับเหตุแผ่นดินไหว 3.11 ทำให้มังงะเรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ "มังงะพยากรณ์ลวงตา" โดยฉบับที่เลิกพิมพ์ไปแล้วถูกนำมาขายในราคาสูงกว่า 100,000 เยน หรือกว่า 2 หมื่นบาทในการประมูล

ทำให้ "อนาคตที่ฉันเห็น" ยังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน โดยหนังสือฉบับสมบูรณ์ (ตีพิมพ์ปี 2021) มียอดขายมากกว่า 560,000 เล่ม

อย่างไรก็ตาม เธอได้ปรับเปลี่ยนคำทำนายถึง “วันที่ 5 กรกฎาคม” ผ่านหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งตีพิมพ์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในชื่อว่า "Tenshi no Yuigon" 

แม้จะไม่ได้ยกเลิกคำทำนาย "หายนะเดือนกรกฎาคม" แต่เธอได้แก้ไขคำกล่าวเกี่ยวกับ "วันที่ 5 กรกฎาคม" ในทำนอง ไม่ได้หมายความว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้​ (แบบเฉพาะเจาะจง)

พร้อมชี้แจงถึงที่มาของความคลาดเคลื่อน เนื่องจากว่า การระบุวันที่ 5 กรกฎาคม อาจมาจากการถอดความจากการสัมภาษณ์หรือการจดบันทึกจากกองบรรณาธิการ ที่เกิดเป็นหนังสือ "Watashi ga Mita Mirai: Kanzenban" ในเวลาต่อมา

เธอรู้สึกว่า ผลงานที่ออกมา "ไม่ได้เป็นไปตามความตั้งใจ" ของตนเอง แต่เป็นการตีพิมพ์โดยมีเจตนาของสำนักพิมพ์เป็นหลัก

และระบุว่า "วันที่เห็นความฝันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์" ซึ่งเป็นการปฏิเสธการระบุวันที่ที่เฉพาะเจาะจง

คำพยากรณ์ที่ไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับ

หลังจากหนังสือพร้อมคำทำนายถึง “หายนะที่กำลังจะเกิด” กลายเป็นไวรัลในโซเชียล และสร้างความแตกตื่นถึงขั้นนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมาญี่ปุ่นนั้น ฝั่งทางการและนักวิชาการก็พยายามออกมาชี้แจง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยยืนยันว่า ​การทำนายนั้น “​ไม่มีมูลความจริงทางวิทยาศาสตร์” เช่น

  • รัฐบาลญี่ปุ่น โดยสำนักคณะรัฐมนตรีได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า การทำนายสถานที่และเวลาของภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ยังคงอยู่นอกเหนือขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ในปัจจุบัน
  • สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) ระบุว่า ข้อมูลการทำนายแผ่นดินไหวที่ระบุเวลาและสถานที่อย่างเจาะจงนั้น โดยทั่วไปแล้วถือว่าเป็นข่าวลือ และไม่น่าเชื่อถือ
  • ผู้ว่าราชการจังหวัดมิยางิ โยชิฮิโระ มุไร กล่าวในการแถลงข่าวว่า "เป็นปัญหาใหญ่มากที่ข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์กำลังแพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว" เขายังเน้นย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่าคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศก็ไม่ได้อพยพไปต่างประเทศ และขอให้ผู้คนละเลยข่าวลือและมาเยือนญี่ปุ่นอย่างสบายใจ
  • ผู้ว่าราชการจังหวัดโทกุชิมะ มาซาซูมิ โกโทดะ ชี้ให้เห็นว่าภัยพิบัติสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และสิ่งที่เราทำได้คือเตรียมพร้อมเสมอ
  • คิมิโร เมกุโระ ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมการบรรเทาภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยโตเกียว ยืนยันว่า "เป็นไปไม่ได้" ที่มังงะที่ตีพิมพ์ในปี 2021 จะสามารถทำนายแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ได้ถูกต้องในอีกสี่ปีต่อมา เขากล่าวว่า "นี่เป็นเพียงข่าวลือ" และไม่มีวิธีการหรือเทคโนโลยีใดในปัจจุบันที่สามารถทำนายเช่นนั้นได้ เขายังเตือนว่าข่าวลือเช่นนี้เพียงทำให้ผู้คนประหม่า ซึ่งอาจเป็นอันตรายในรูปแบบอื่นได้
  • ศาสตราจารย์ นาโอยะ เซกิยะ จากมหาวิทยาลัยโตเกียว เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติได้ตลอดเวลา มากกว่าการไปให้ความสำคัญกับการทำนายที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related