ปชป.จัดทัพเคาะชื่อ 350 ผู้สมัคร ส.ส. หวังสะท้อนความพร้อมพรรค-ตัดข้อสับสน ส่ง “มาร์ค-นายกฯ”ชื่อเดียว ไม่มี “ชวน”

การชิงเลือกว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ก่อนใครเพื่อน แม้จะมีปัญหาไม่ลงตัวภายในพรรคสอดแทรกอยู่บ้าง แต่สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของพรรคสำหรับสู้ศึกเลือกตั้ง และยังเป็นการตัดปัญหา “ข่าวลือ”หรือความไม่ลงตัว ที่ในพรรคฟันธงไว้ล่วงหน้า ว่า อย่างไรเสียก็ต้องโดน

จัดเสร็จสรรพเรียบร้อยแต่เนิ่นๆ ถึงจะมีเสียงวิพากษ์ตั้งข้อสังเกตจากแวดวงสื่อบ้าง แต่สักพักจะนิ่ง และทำให้ผู้บริหารและว่าที่ผู้สมัครส.ส.ไม่ต้องคอยพะวงกับเรื่องนี้ จะได้มีเวลาเตรียมพร้อมสำหรับสู้ศึกเลือกตั้งเต็มที่

การเลือกตัวบุคคลลงสมัครส.ส.ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดให้กลุ่มรุ่นใหม่ หรือ NEW DEM ในพรรคเข้าไปเป็นตัวแทนสู้ศึกในสนามเลือกตั้งแบบเขตหลายคน เฉพาะในกรุงเทพฯ มีถึง 5 คน รวมทั้ง “ไอติม” นายพริษฐ วัชรสินธุ “หลานน้า”ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเขตบางกะปิ นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ หรือ “หมอเอ้ก” ลงสมัครเขตบางซื่อ และนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ทายาทนักธุรกิจเครือโนเบิล ลงสมัครเขตมีนบุรี ส่วน “ปลื้ม” นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย ไปอยู่ในบัญชีรายชื่อ

ขณะที่สมาชิกอาวุโสหลายคน สมัครใจที่จะขอรีไทร์ วางมือทางการเมือง เปิดทางให้ทายาททางการเมือง หรือคนรุ่นใหม่ ได้เข้าไปทำหน้าที่แทน มีอยู่หลายคน อาทิ นายเจริญ คันธวงศ์ อดีตส.ส.กทม.หลายสมัย อดีตประธานส.ส.ปชป. และอดีตรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ฯ นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ และอดีตรัฐมนตรีแรงงาน สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย รวมทั้งนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตโฆษก 3 สี และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ คลัง อุตสาหกรรม

กรณีว่าที่ผู้สมัครส.ส.ไม่ลงตัว หรือมีความขัดแย้ง ได้รับการสะสางจัดการเรียบร้อยจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดแล้ว ทั้งกรณี นายเจือ ราชสีห์ อดีตส.ส.กับนายสรรเพชญ บุญญามณี ในเขต 1 สงขลา กรรมการบริหารพรรค โหวตเลือกนายสรรเพชญ เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตดังกล่าว

กรณีเขต 1 จ.อุบลราชธานี ที่เป็นผลจากการแบ่งเลือกตั้งใหม่ โดยเอา 2 เขตเลือกตั้งเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ มารวมเป็นเขตเลือกตั้งเดียว กระทั่งเกิดความไม่ลงตัวระหว่างอดีตส.ส. 2 คน ของนายวุฒิพงษ์ นามบุตร กับนายศุภชัย ศรีหล้า สุดท้าย ให้นายศุภชัยขึ้นบัญชีรายชื่อ ส่วนนายวุฒิพงษ์ ลงส.ส.เขต

กรณีเขตคลองสามวา ที่นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ลูกชายของ นายวิรัตน์ กัลป์ยาศิริ หัวหน้าทีมกฏหมายของพรรค นำมวลชนหลายสิบคนไปสร้างแรงกดดันกับผู้บริหารเพื่อขอลงเขตดังกล่าว แต่ทางพรรคพิจารณาให้ นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ (อุเซ็ง) น้องสาวนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ลงสมัครส.ส.เขตดังกล่าว

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 30 เขตบางกอกน้อยและบางพลัด ที่ประชุมให้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตนี้ หลังจากเป็นพื้นที่ซับซ้อนระหว่าง น.ส.รัชดา กับนายชนินทร์ รุ่งแสง อดีตส.ส. 2 สมัย อันเป็นผลจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่เช่นกัน สุดท้ายชี้ขาดให้ น.ส.รัชดา เป็นว่าที่ผู้สมัคร

สำหรับรายชื่อผู้เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคมีมติให้ส่งชื่อนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค เพียงรายชื่อเดียว ไม่มีชื่อนายชวน หลีกภัย รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้คาดหมายว่า เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน และป้องกันการให้ข่าวสนับสนุนนายชวนเป็นนายกรัฐมนตรีของสมาชิกในพรรค และสะท้อนความเป็นเอกภาพของพรรคด้วย

หลังจากก่อนหน้านี้ มีสมาชิกทั้งระดับอาวุโส และระดับแกนนำพรรค เคยเคลื่อนไหวสนับสนุนนายชวน กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคสู้ศึกเลือกตั้งแทนนายอภิสิทธิ์ และเสนอเป็นหนึ่งในรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคมาแล้ว

แต่การตัด “นายหัวชวน”ทิ้งไปในขั้นตอนสุดท้าย จะโดนใจกองเชียร์ หรือชาวบ้านผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วไปแค่ไหน เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคอยลุ้นกัน