ย้อนบทลงโทษข้อหาสำคัญ ที่เกิดขึ้นบ่อย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งจับของลับหญิงชาย มีโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท ส่วนยิงปืนขึ้นฟ้ามีโทษหนักเช่นกัน
วันที่ 14 เม.ย.61 ช่วงนี้หลายจังหวัดทั่วประเทศ ยังคงชุ่มฉ่ำจากการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ซึ่งหลายพื้นที่เน้นจัดงานตามแบบวิถีไทย และบางแห่งจัดงานเอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีการเล่นน้ำจนเกินเลย ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตามมา
โดยสปริงนิวส์ จะขอย้อนบทลงโทษข้อหาสำคัญๆ จำนวน 7 ฐานความผิด ที่มักเกิดขึ้นบ่อย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามคำอธิบายของนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง
1.คดีจับของลับหญิงและชาย โดยที่เขาไม่ยินยอม มีความผิดเข้าข่ายอนาจาร ตามกฎหมายอาญา มาตรา 278 มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี หรือปรับ 2 หมื่นบาท
2.คดีเต้นโชว์หน้าอก มีความผิดฐานกระทำการอันควรขายหน้า ต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือย หรือเปิดเผยร่างกาย ตามกฎหมายอาญา มาตรา 388 โทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท
3.คดีดื่มเหล้าขณะขับรถ ผิดตามมาตรา 31 มาตรา 42 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และประกาศสำนักนายกฯ ปี 2555 โทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน
4.คดีดื่มเหล้าในปั๊มน้ำมัน ผิดมาตรา 31 (5) ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
5.คดียิงปืนขึ้นฟ้า กระสุนตกใส่คนตาย อาจผิดข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ตามกฎหมายอาญา มาตรา 291 โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี แต่ถ้ากระสุนไม่โดนผู้อื่น อาจถูกดำเนินคดียิงปืนโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้าน เช่นกรณี-เสก โลโซ
6.คดีขับขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบก โทษปรับเงิน 500 บาท
7.คดีคนซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัย โดนโทษ 2 เท่า ปรับเงินไม่เกิน 1 พันบาท
ขณะที่กรมการขนส่งทางบก แจ้งเตือนผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถโดยสารสาธารณะ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง หากพบพฤติกรรมฉวยโอกาส เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ปรับสูงสุดไม่เกิน 5 พันบาท ส่วนกรณีปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงไว้ แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ปรับสูงสุดไม่เกิน 1 พันบาท
กรณีใช้รถจักรยานยนต์ป้ายดำ รถยนต์ส่วนบุคคลป้ายดำ นำมารับจ้างรับส่งผู้โดยสาร ปรับสูงสุดไม่เกิน 2 พันบาท และหากตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นการกระทำความผิดซ้ำซาก ความผิดอาญา หรือความผิดลามกอนาจาร ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ จะลงโทษพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที