คดีร่างทรงฤาษีตาไฟ ข่มขืนเด็ก 17 ปี พยานปากเอก เข้าให้ปากคำยืนยันว่าร่างทรงสามารถเล่น "เฟสบุ๊ค" กับ "ไลน์" ได้จริง หลังจากก่อนหน้านี้ตกเป็นจำเลยของสังคม จนลูกสาวไปโรงเรียนก็ไม่มีความสุขเพราะอับอายเพื่อน
จากกรณีที่พ่อและแม่ของ น.ส.เอ อายุ 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจสถานีตรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ว่า น.ส.เอ ถูกนายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ ชายร่างพิการอ้างว่าเป็นร่างทรงของฤาษีตาไฟ ล่อลวงไปข่มขืน ระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนายสุรสิทธิ์มารับทราบ 2 ข้อหาหนัก คือ พรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยนายสุรสิทธิ์ ใช้หลักทรัพย์ขอประกันตัววงเงิน 200,000 บาท ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งพนักงานสอบสวน จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ในสิ้นเดือนกันยายนนี้
ล่าสุด นายทวี เทียนทอง ลูกศิษย์พยานปากเอกของคดีนี้ ซึ่งเป็นผู้ที่ขับรถพานายสุรสิทธิ์และผู้เสียหายเข้าไปทำพีธีสะเดาะเคราะห์ในรีสอร์ต ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องในสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนั้นรู้ว่าต้องทำหน้าที่แค่ขับรถไปส่งเพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์เท่านั้น หากรู้จะไม่ยอมขับรถไปอย่างเด็ดขาด
นายทวี บอกว่าหลังให้ปากคำรู้สึกสบายใจขึ้น เพราะที่ผ่านมาเหมือนกับตกเป็นจำเลยของสังคม ลูกสาวไปโรงเรียนก็ไม่มีความสุข อับอายว่าพ่อมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงอยากให้สื่อเสนอข่าวให้ครบทุกด้านด้วย
ทั้งนี้ ตามข้อเท็จจริงแล้ว นายสุรสิทธิ์ จะเดินได้ด้วยเข่าและสามารถ เล่นเฟสบุ๊ค เล่นไลน์ได้ แต่จะพิมพ์ไม่ได้ เพราะมือพิการ ต้องใช้วิธีส่งสติกเกอร์ ภาพที่เห็นทางสื่อกับความเป็นจริงของนายสุรสิทธิ์ไม่เหมือนจริง เพราะนายสุรสิทธิ์ปากไม่เบี้ยว แขนขาสามารถใช้งานได้เป็นบางช่วง สามารถนั่งได้เป็นเวลานานและจับปากกาเขียนยันต์ได้