ญาติโฟร์แมนชาวชลบุรี เผยวินาทีสลด ก่อนนวดแผนไทยแล้วเสียชีวิตด้วยอากร ลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดที่ปอด ยืนยันไม่ติดใจเอาความแต่ขอให้เป็นอุทธาหรณ์ ขณะที่ยายที่นวดประกาศล้างมือ ช๊อกเสียใจทำลูกค้าเสียชีวิต
ความคืบหน้ากรณี นายสมบัติ กวนศักดิ์ โฟรแมนหนุ่มวัย 37 ปี ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังเข้ารับการนวดแผนไทย ที่ร้านนวดแห่งหนึ่งใน ตลาดน้ำ 4 ภาค จ.ชลบุรี โดยก่อนเข้าใช้บริการ นายสมบัติ มีอาการกล้ามเนื้ออักเสบ จากการเล่นฟุตบอล
ล่าสุด วานนี้ น.ส.จันทร์ดา ศักดิ์เหิม ภรรยา และ นางพรรธน์นภา อุดหมุน ได้เปิดเผยเรื่องราว ได้นำสื่อมวลชน ลงพื้นที่เกิดเหตุ น.ส. จันทร์ดา ระบุว่า ปกติสามีเป็นคนร่างกายแข็งแรง แต่ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 1 สัปดาห์ ได้มีอาการรกล้ามเนื้ออักเสบ จากการเล่นฟุตบอลจนต้องไม้เท้าช่วยพยุง
โดยในวันที่ 13 ต.ค.ครอบครัวได้มาเที่ยวที่ ตลาดหมู่บ้านวิถีไทย และผ่านร้านนวด ระหว่างนั้น ได้มีหญิงสูงอายุ ที่เป็นพนักงานมาชวนนวด โดยบอกจะช่วงบรรเทาอาการอักเสบได้ นายสมบัติจึงตัดสินใจนวด แต่เมื่อนวดมาได้ครึ่งชั่วโมง เริ่มมีอาการจุกหายใจไม่ออก จนให้เลิกนวด และ ให้เรียกรถพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 18 ต.ค.โดย แพทย์ระบุการเสียชีวิต จากอาการลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดที่ปอด
เบื้องต้นทางครอบครัวไม่ได้ติดใจเอาความ แต่อยากจะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ในการนวดว่าคนนวดควรมีความรู้ในการนวดเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งล่าสุดทางร้านก็ได้ติดต่อมาเพื่อช่วยในค่าเสียหายส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียด
ด้าน น.ส.พัชญ์สินี วีรนันท์ หลานสาวของ นาง สะขาว วีรนันท์ อายุ 72 ปี ยายที่ลงมือนวด ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ยายก็ไม่ได้เดินทางมานวดอีก และประกาศจะเลิกทำอาชีพหมอนวด เนื่องจากรู้สึกสะเทือนใจ ถึงขนาดช็อกไม่พูด และ ไม่กินข้าว ยืนยันว่าวันเกิดเหตุ ยายใช้เพียงลูกประคบกับผู้ตาย ไม่ได้ลงมือบีบนวดร่างกายแต่อย่างใด
ด้านเฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ของนายแพทย์วิทวัส ศิริประชัย ระบุว่า การนวดแผนไทย มีข้อห้ามคือ มีไข้เกิน 38.5 องศาเซลเซียส หรือ มีโรคติดเชื้อเฉียบพลัน มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง /กระดูกแหก หัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวานที่ควบคุมอาการไม่ได้ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดดำอักเสบ กระดูกพรุนรุนแรง โรคติดต่อระยะแพร่เชื้อ และอื่นๆ เพราะอาจจะทำให้อาการหนักกว่าเดิม
ทั้งนี้กรณี โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในหลอดเลือดปอดเฉียบพลัน เคยมีการตีพิมพ์ในวารสาร ศรีนครินทร์เวชสาร ว่า เป็นภาวะฉุกเฉินทางระบบหัวใจและหลอดเลือด ที่พบบ่อยเป็นลำดับที่สาม รองจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และ โรคหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้เกิดอัตราการเสียชีวิตที่ค่อนข้างสูง แม้จะส่งถึงมือแพทย์เฉพาะทางโดยเร็วก็ตาม