อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงเหตุ อดีตนักโทษเบลารุส ให้สัมภาษณ์สื่อนอกกล่าวหา "ติดคุกไทยเหมือนนรก" เผยเจ้าตัวทำผิดระเบียบข้อบังคับ
วันที่ 31 มกราคม 2562 พันตํารวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นางสาวอนาสตาซิยา วาซูเควิช สัญชาติเบลารุส อดีตผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษพัทยา ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ติดคุกไทยเหมือนนรก นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่าเรือนจำพิเศษพัทยา ได้รับตัวนางสาวอนาสตาซิยา พร้อมกับพวกรวม 8 คน เป็นชาย 6 คน และหญิง 2 คน ตามคำสั่งศาลจังหวัดพัทยา เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561 ในข้อหาร่วมกันเป็นอั๊งยี่ซ่องโจร ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่นฯ เนื่องจากศาลมีคำพิพากษาให้รอการลงโทษจำคุกและต้องขังมาพอแก่โทษปรับแล้ว จึงได้รับการปล่อยตัวพ้นโทษเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 พร้อมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับตัวไปดำเนินการต่อซึ่งระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษพัทยา ทางเรือนจำฯ ได้ปฏิบัติต่อนางสาวอนาสตาซิยาฯ ตามกฏหมาย ระเบียบข้อบังคับของเรือนจำฯ รวมทั้งตามข้อกำหนดกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับผู้ต้องขังหญิงคนอื่นๆ อย่างเสมอภาค แต่ระหว่างถูกคุมขังนั้น นางสาวอนาสตาซิยาฯ มีพฤติการณ์ไม่ยอมรับและไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ เจ้าหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือนให้ประพฤติตนตามระเบียบข้อบังคับของเรือนจำฯ แต่นางสาวอนาสตาซยา จะมีอาการไม่พอใจ และกล่าววาจาโต้เถียงทุกครั้ง ทั้งนี้ เรือนจำฯ ได้แจ้งด้วยวาจาให้สถานทูตทราบเป็นระยะๆ ถึงพฤติการณ์ของนางสาวอนาสตาซิยา เมื่อทางสถานทูตเข้าพบผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว ส่วนผู้ต้องขังคนอื่นๆในคดีเดียวกัน ได้ปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของเรือนจำทุกประการ
พันตำรวจเองณรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ได้ควบคุมดูแลผู้ต้องขังทุกคน อย่างเสมอภาคตามหลักสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างถูกต้องตามระเบียบที่ กำหนดไว้ และยังคงดำเนินการพัฒนาระบบการบริการในด้านต่างๆ เช่น การเข้าถึงทางการแพทย์ การดูแลสุขภาวะ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง แต่ในปัจจุบันผู้ต้องขังที่มี จำนวนมาก อาจทำให้เป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยหวังว่าสังคมจะเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ และเปิดโอกาสให้กับผู้พ้นโทษที่มีความประพฤติดีได้รับการยอมรับต่อไป