นานาชาติส่งกำลังใจ "ศาลไทย" นัดตรวจหลักฐาน "ฮาคีม" 22 เม.ย.

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล โอไรบี จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา หลังศาลนัดสอบคำให้การจำเลย ในคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน หมายเลขดำ ผด.6/2562 ที่ พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล โอไรบี” หรือ “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อไลราบี” (Hakeem Ali Mohamed Ali Alaraibi) อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน เป็นจำเลย ในสถานะผู้ลี้ภัยประเทศออสเตรเลีย กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน ตามที่รัฐบาลบาห์เรนร้องขอ

ต่อมาศาลออกนั่งบัลลังก์พิจารณา พร้อมอ่านและอธิบายคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้นายฮาคีมฟังผ่านล่าม ก่อนสอบถามว่ายินยอมจะถูกส่งตัวกลับไปรับโทษที่ประเทศบาห์เรนตามคำร้องหรือไม่ โดยนายฮาคีมได้ให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน ศาลจึงมีคำสั่งให้นายฮาคีม จำเลยยื่นคำคัดค้านคำร้องอัยการต่อศาลภายใน 10 วัน แต่จำเลยแถลงว่าไม่สามารถยื่นได้ทันภายใน 10 วัน เนื่องจากต้องร้องขอเอกสารจากต่างประเทศในการสู้คดีหลายประเด็น ซึ่งเป็นทั้งประเด็นการเมืองและศาสนา ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรม จึงให้จำเลยยื่นคำคัดค้านได้ภายในวันที่ 5 เม.ย.2562 และนัดตรวจหลักฐานต่อไป ในวันที่ 22 เม.ย. 2562

สำนักข่าวรอยเตอรส์ รายงานว่า วันนี้ มีนักการทูตกว่าสิบประเทศไปแสดงตนที่บริเวณหน้าศาล เพื่อรอรับนายฮาคีม นำโดยว่าที่เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย นายแอลเลน แมคคินนอน และระหว่างที่นายฮาคีมเดินกลับไปที่รถผู้ต้องขัง เขากล่าวว่า “โปรดช่วยชีวิตผมด้วย”

นายแมคคินนอน กล่าวว่า ออสเตรเลียจะยังคงเดินหน้ากดดัน และในวันนี้มีผู้แทนจากอย่างน้อย 15 ประเทศมาสังเกตการณ์ในกระบวนการเหล่านี้ หลายประเทศได้ร่วมกับออสเตรเลียในการส่งความคิดเห็นไปยังรัฐบาลไทยโดยตรง

สิ่งที่ออสเตรเลียกำลังพิจารณาในขณะนี้คือ มีอะไรบ้างที่สามารถทำได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้นายฮาคีมออกจากที่คุมขังโดยเร็ว ให้คดีความแล้วเสร็จ และให้เขาได้กลับออสเตรเลีย

ขณะที่นายอัดดีชี เฟเดริโก ประธานฝ่ายความหลากหลายและความยั่งยืนของฟีฟ่า กล่าวว่าฟีฟ่ามีความกังวลตั้งแต่วันแรกของการควบคุมตัวนายฮาคีมแล้ว เพราะในความเป็นจริง นายฮาคีมควรจะอยู่ที่ออสเตรเลีย ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวและทีมฟุตบอลของเขา รวมถึงได้ทำในสิ่งที่ควรทำ นั่นก็คือ การเล่นฟุตบอล นั่นเอง