svasdssvasds

ตำรวจคุมมือยิงวิน จยย. คู่อริ ทำแผนหวิดโดนประชาทัณฑ์

ตำรวจคุมมือยิงวิน จยย. คู่อริ ทำแผนหวิดโดนประชาทัณฑ์

พนักงานสอบสวนพหลโยธินคุมตัว มือยิงวิน จยย.คู่อริดับ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เกือบโดนญาติผู้ตายรุมประชาทัณฑ์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ที่ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน เบิกตัว นายกฤติเดช โพธิ์พระ หรือเบนซ์ อายุ 27 ปี อาชีพวินจยย. ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นายโสภณ ทองกล่ำ อายุ 27 ปี วินจยย. คู่อริจนเสียชีวิต มาสอบสวนก่อนพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณเพิงพักวินจยย.ในซอยรัชดาภิเษก 32 แยก 5-4 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

สำหรับ นายกฤติเดช หลังจากก่อเหตุยิงนายโสภณ เสียชีวิตแล้ว ได้หลบหนีไปยังบ้านพ่อตาที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พร้อมอาวุธปืนที่ก่อเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจะติดตามไปจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้(15ก.ค.) และควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.พหลโยธิน โดยมี พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เชษฐา สว่างสุข ผกก.สน.พหลโยธิน ร่วมสอบปากคำ โดยนายกฤติเดช ให้การรับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงนายโสภณ จริงเนื่องจากมีความขัดแย้งกันมานาน ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาเร่งเครื่องใส่จึงเกิดความไม่พอใจจนกระทั่งตัดสินใจลงมือดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัว นายกฤติเดช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ทางญาติและเพื่อนของผู้ตาย ได้มาเฝ้ารอดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงระหว่างทำแผน ญาติผู้เสียชีวิตพยายามจะเข้าทำร้ายผู้ต้องหาและใช้คำหยาบด่าทอผู้ต้องหา ด้วยความโกรธแค้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นไว้ไม่ให้เข้าถึงตัวผู้ต้องหา และรีบทำแผนให้เสร็จโดยเร็วก่อนนำตัวกลับสน.พหลโยธิน ส่วน นายกฤติเดช ผู้ต้องหา มีสีหน้าที่เรียบเฉย

ตำรวจคุมมือยิงวิน จยย. คู่อริ ทำแผนหวิดโดนประชาทัณฑ์

ด้าน น.ส.เพ็ญณี สีสินวัน อายุ 47 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ได้นิมนต์พระสงฆ์มาอัญเชิญดวงวิญญาณ บริเวณที่เกิดเหตุ โดยส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายรับรู้และรับทราบแล้ว เพราะตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ลูกชายไม่เคยมาหาหรือมาเข้าฝันใดๆทั้งสิ้นแต่หลังจากที่อันทุกอย่างเลยวันนี้แล้วเชื่อว่าลูกชายจะกลับมาหา ซึ่งตนอยากจะบอกว่าภูมิใจในตัวลูกชายมาก เพราะหลังจากเกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำร่างของลูกชายไปเป็นกรณีศึกษาของนักศึกษาแพทย์ด้วย นอกจากนี้ตนอยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่า ทำอะไรทำไมไม่นึกถึงใจเขาใจเราถึงคุณจะรวยแต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับคนเช่นนี้ อีกอย่างคุณก็มีลูกน้อยทำไมคุณไม่คิดบ้าง

ด้านนายศักดิ์ชัย ขุนทอง อายุ 42 ปี รุ่นพี่ผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนมั่นใจว่าผู้ตายไม่ใช่คนดื่มเหล้าเมาสุราอย่างที่มีการนำเสนอก่อนหน้านี้แน่นอน ส่วนประเด็นเมื่อ 2 ปีก่อน ทำไมถึงไม่เครียร์กันตั้งแต่ตอนนั้น ทำไมพึ่งจะมาเครียร์ตอนนี้ หรือว่ายังหาปืนไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง จึงไม่มีใครทราบว่าผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีเรื่องอะไรกัน และในวันที่เกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังนั่งพูดคุยเล่นอยู่กับผู้ตายนั้น จู่ๆผู้ก่อเหตุก็ขับรถจักรยานยนต์มาบริเวณที่เกิดเหตุ และตะโกนเรียกหาผู้ตาย จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปคุยกันผู้เพียงลำพังประมาณ 1-2 นาทีก่อนที่พูดก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนยิงที่ผู้ตาย 1 นัด จากนั้นผู้ก่อเหตุก็หันอาวุธปืนมาทางพวกตนและถามว่ามีใครจะเอาอีกไหม ซึ่งตนขอถามว่า ในเมื่อเจอกรณีเช่นนี้ ตนสามารถฟ้องร้องได้หรือไม่ เพราะผู้ก่อเหตุนำอาวุธปืนมาข่มขู่ทำให้หวาดกลัว สุดท้ายนี้ตนไม่มีอะไรจะบอกผู้ก่อเหตุ และไม่มีอะไรจะบอกผู้ตายเช่นกัน เพราะพูดไปก็ไม่ได้ยิน แต่มันรับรู้ที่ใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทางพนักงานสอบสวนได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว ได้นำตัวผู้ต้องหากลับมาที่สน.พหลโยธิน เพื่อพักรอรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เพื่อจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ในช่วงบ่ายของวันนี้ ส่วนศพของนายโสภณ ทางครอบครัวได้ดำเนินการนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่ วัดลาดพร้าว ศาลา 7 โดยได้รถน้ำศพเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา(15ก.ค.)

related