SHORT CUT
ราคา Bitcoin (BTC) พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในวันพุธ ทะลุ $109,500 ขานรับความเชื่อมั่นนักลงทุนและความหวังด้านกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
ราคา Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลเรือธง พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งแตะระดับเกือบ $109,500 (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) ในช่วงเช้าวันพุธ
ทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้ราว $109,300 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในช่วงข้ามคืนที่ต่ำกว่า $106,000 เล็กน้อย
การปรับตัวขึ้นครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง ประกอบกับความคาดหวังเชิงบวกต่อทิศทางนโยบายและกฎระเบียบที่อาจเป็นผลดีต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงไปถึงประมาณ $76,000 (ประมาณ 2.77 ล้านบาท) เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น สกุลเงินดิจิทัลและหุ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นภาษีศุลกากรและผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าโลกได้บรรเทาลงในระดับหนึ่ง ขณะที่นักลงทุนยังคงมีความหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ และฝ่ายนิติบัญญัติที่สนับสนุนคริปโทฯ จะผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสินทรัพย์ประเภทนี้
นายแอนโทนี เทรนเชฟ ผู้ร่วมก่อตั้ง Nexo บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทฯ ให้ความเห็นว่า "การทำสถิติสูงสุดใหม่ของ Bitcoin เป็นผลมาจากปัจจัยบวกหลายประการในภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค
ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลง การลดความตึงเครียดในสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และการที่ Moody's ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สินทรัพย์ทางเลือกอย่าง
"Bitcoin ได้รับความสนใจในฐานะแหล่งเก็บมูลค่า" เขายังกล่าวเสริมว่า "เราได้เข้าสู่จักรวาลใหม่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากช่วงต้นเดือนเมษายน ที่ความกังวลด้านเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกพุ่งขึ้นสูงสุด
และ Bitcoin ร่วงลงไปถึง $74,000 (ประมาณ 2.70 ล้านบาท) เป็นไปได้ว่าหน้าต่างโอกาส 3 เดือนได้เปิดขึ้นสำหรับสินทรัพย์เสี่ยงที่จะเติบโต ในขณะที่มีการเจรจาข้อตกลงทางการค้าที่กว้างขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน"
กระแสเงินทุนไหลเข้า ETF : ข้อมูลจาก SoSoValue ระบุว่า ยอดเงินทุนสะสมไหลเข้ากองทุน ETF ที่ติดตามราคา Bitcoin ทะลุ $40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว และมีเงินทุนไหลออกเพียงสองวันในเดือนพฤษภาคม
สภาพคล่องในตลาดหุ้น : สภาพคล่องในตลาดหุ้นช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม รวมถึง Bitcoin
ปัจจัยหนุนจากความเสี่ยง : ความกังวลเกี่ยวกับภาษีและการขาดดุลของสหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นปัจจัยลบ กลับกลายเป็นปัจจัยบวกที่ผลักดันราคาทองคำและสินทรัพย์ทางเลือกเช่น Bitcoin
ข้อมูล On-chain : ข้อมูลจาก CryptoQuant ชี้ให้เห็นถึงแรงขายที่ลดลง สะท้อนจากปริมาณ Bitcoin ไหลเข้าสู่ศูนย์ซื้อขายน้อยลง และสภาพคล่องในตลาดคริปโทฯ ที่เพิ่มขึ้น โดยวัดจากปริมาณ Tether (USDT) ซึ่งเป็นมาตรวัดสภาพคล่องในตลาด บนศูนย์ซื้อขายที่ทำสถิติใหม่
การยอมรับจากภาคธุรกิจ : จำนวน Bitcoin ที่ถือครองโดยบริษัทมหาชนเพิ่มขึ้น 31% นับตั้งแต่ต้นปี มาอยู่ที่ประมาณ $349 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 15% ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมด ตามข้อมูลจาก Bitcoin Treasuries
ความคืบหน้าด้านกฎระเบียบ : วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผลักดันร่างกฎหมายที่จะสร้างกรอบการกำกับดูแล Stablecoin เป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของตลาดคริปโทฯ
Coinbase เข้าสู่ S&P 500 : การที่ Coinbase Global (COIN) บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทฯ รายใหญ่ ได้เข้าร่วมดัชนี S&P 500 ในเดือนนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโทฯ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่าเขาต้องการเห็นกฎหมายกำกับดูแลคริปโทฯ พร้อมลงนามภายในเดือนสิงหาคม ก่อนที่สภาคองเกรสจะปิดสมัยประชุม
การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ยังส่งผลให้หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ ปรับตัวสูงขึ้นถ้วนหน้า เช่น Strategy (MSTR) ผู้ซื้อ Bitcoin รายใหญ่, Coinbase Global (COIN), และบริษัทเหมืองขุด Bitcoin อย่าง MARA Holdings (MARA) และ Riot Platforms (RIOT)
ถึงแม้ว่าราคา Bitcoin จะมีการย่อตัวลงเล็กน้อยหลังจากทำสถิติสูงสุดใหม่ จากแรงกดดันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นและตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง
แต่ล่าสุดราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ $108,955.10 (ประมาณ 3.97 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 2% ตามข้อมูลจาก Coin Metrics โดยก่อนหน้านี้เคยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดถึง $109,857 (ประมาณ 4.00 ล้านบาท)
นักลงทุน ยังคงคาดหวังว่าปัจจัยกระตุ้นต่างๆ รวมถึงความชัดเจนด้านกฎระเบียบและการลงทุนจากภาคธุรกิจ จะยังคงผลักดันให้ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นต่อไปได้
ที่มา : investopedia, REUTERS