SHORT CUT
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ตำนานนักลงทุน ประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอ Berkshire Hathaway สิ้นปี 2025 หลังบริหารนาน 60 ปี ส่งต่อตำแหน่งให้ เกร็ก เอเบล รองประธานบริษัท
วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนผู้มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ประกาศเตรียมลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Berkshire Hathaway ในช่วงสิ้นปี 2025
ปิดฉากการบริหารงานอันยาวนานถึง 6 ทศวรรษ พร้อมส่งมอบตำแหน่งให้กับ เกร็ก เอเบล รองประธานบริษัทคนปัจจุบัน
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของ Berkshire Hathaway ณ เมืองโอมาฮา โดยบัฟเฟตต์ในวัย 94 ปี กล่าวว่า
"ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เกร็กควรจะขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ณ สิ้นปีนี้" แม้เขาจะยังคงอยู่กับบริษัทและอาจ "มีประโยชน์ในบางกรณี" แต่ "คำตัดสินสุดท้าย" จะเป็นของเอเบล
เกร็ก เอเบล วัย 62 ปี ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากบัฟเฟตต์มาตั้งแต่ปี 2021 และดำรงตำแหน่งรองประธานมาตั้งแต่ปี 2018 กล่าวว่าเขารู้สึก "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Berkshire ในก้าวต่อไป"
การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากผู้บริหารระดับสูงและนักลงทุนมากมาย เจมี ไดมอน ซีอีโอของ JPMorgan Chase & Co. กล่าวว่า
"วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นตัวแทนของทุกสิ่งที่ดีงามเกี่ยวกับระบบทุนนิยมอเมริกันและอเมริกา"
ขณะที่ Tim Cook ซีอีโอของ Apple ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ Berkshire ถือหุ้นใหญ่ โพสต์ผ่าน X ว่า "ไม่มีใครเหมือนวอร์เรน และผู้คนนับไม่ถ้วนรวมถึงตัวผมเอง ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญาของเขา"
บัฟเฟตต์ยืนยันว่าเขามีความตั้งใจเป็น "ศูนย์" ที่จะขายหุ้น Berkshire ที่เขาถืออยู่ ซึ่งเกือบทั้งหมดจะถูกบริจาคเพื่อการกุศลหลังการเสียชีวิตของเขา
"การตัดสินใจเก็บหุ้นทุกหุ้นไว้เป็นการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เพราะผมคิดว่าอนาคตของ Berkshire ภายใต้การบริหารของเกร็กจะดีกว่าภายใต้การบริหารของผม" บัฟเฟตต์กล่าว
ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา บัฟเฟตต์ได้พลิกโฉม Berkshire จากบริษัทสิ่งทอที่ใกล้ล้มละลาย ให้กลายเป็นกลุ่มบริษัทโฮลดิ้งมูลค่า 1.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ วันที่ประกาศ) ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายครอบคลุมเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ตั้งแต่ประกันภัยรถยนต์ Geico, รถไฟ BNSF, บริษัทอุตสาหกรรมและเคมีภัณฑ์, สาธารณูปโภค, ไอศกรีม Dairy Queen ไปจนถึงขนม See's Candies
และยังถือหุ้นมูลค่ามหาศาลในบริษัทชั้นนำอย่าง Apple, American Express และ Bank of America รวมกว่า 264 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม
บัฟเฟตต์ ผู้ได้รับฉายา "เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา" เป็นที่รู้จักจากความสำเร็จในการลงทุน ปรัชญาที่เรียบง่าย และการใช้ชีวิตสมถะ แม้จะมีทรัพย์สินส่วนตัวสูงถึง 168.2 พันล้านดอลลาร์ (ตามข้อมูล Forbes) แต่เขาก็ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 1958
สำหรับอนาคต คาดว่า ฮาเวิร์ด บัฟเฟตต์ บุตรชาย จะเข้ารับตำแหน่งประธานที่ไม่ใช่ผู้บริหาร (Non-executive Chairman) เพื่อช่วยรักษาวัฒนธรรมองค์กร ขณะที่เอเบลจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการนำพา Berkshire ให้เติบโตต่อไป
รวมถึงการตัดสินใจเรื่องการเข้าซื้อกิจการ การจ่ายเงินปันผล และการบริหารจัดการเงินสดสำรองจำนวนมหาศาลกว่า 347.7 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมีนาคม)
นักวิเคราะห์บางส่วนตั้งคำถามว่า Berkshire จะยังคงมี "มูลค่าเพิ่มจากบัฟเฟตต์" อยู่หรือไม่เมื่อไม่มีเขาบริหารงานโดยตรง
งานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี หรือ "Woodstock for Capitalists" ที่ดึงดูดผู้คนหลายหมื่นคนมายังโอมาฮาทุกปี คาดว่าจะยังคงจัดต่อไป
ที่มา : REUTERS