SHORT CUT
Uber และ Waymo ขยายพื้นที่ให้บริการเรียกรถไร้คนขับสู่เมืองแอตแลนตา ตอกย้ำความสำเร็จของโมเดลความร่วมมือ หลังจากเปิดตัวที่ออสติน ซึ่ง Uber ใช้เทคโนโลยีของ Waymo แทนการพัฒนาเอง
การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดรถยนต์ไร้คนขับ โดยมีคู่แข่งอย่าง Tesla ที่เริ่มลงสนามทดสอบบริการในลักษณะเดียวกัน เป็นสัญญาณว่าเทคโนโลยีกำลังเข้าสู่การใช้งานจริงในวงกว้าง
Waymo กำลังเร่งขยายการดำเนินงานและการทดสอบในเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกไปจนถึงแผนการในนิวยอร์กและวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาดเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติสำหรับบริการสาธารณะ
Uber และ Waymo เริ่มให้บริการเรียกรถยนต์ไร้คนขับผ่านแอป Uber ในเมืองแอตแลนตา ครอบคลุมพื้นที่ 168 ตร.กม. ตอกย้ำการแข่งขันในตลาด Robotaxi ที่ดุเดือดยิ่งขึ้น
Uber และ Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Alphabet ได้ประกาศเริ่มให้บริการเรียกรถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Ride-hailing) ในเมืองแอตแลนตาอย่างเป็นทางการแล้ว
นับเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญหลังจากประสบความสำเร็จในการให้บริการที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
The A is going Autonomous! 🎉 Waymo rides are now live in Atlanta, only on @Uber. Increase your chances of getting matched → open the Uber app, go to settings, and toggle Waymo ride preferences on. pic.twitter.com/uYNHPJxkUL
— Waymo (@Waymo) June 24, 2025
สำหรับบริการในแอตแลนตา ซึ่งทั้งสองบริษัทได้ประกาศแผนไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 จะครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 65 ตารางไมล์ หรือประมาณ 168 ตารางกิโลเมตร ผู้ใช้บริการสามารถเรียกรถยนต์ไร้คนขับของ Waymo ผ่านแอปพลิเคชัน Uber ได้โดยตรง
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตลาดแท็กซี่ไร้คนขับ หรือ "Robotaxi" โดยในขณะเดียวกัน Tesla ก็ได้เริ่มทดลองให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับในวงจำกัดที่เมืองออสตินเช่นกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบวกของอุตสาหกรรมยานยนต์อัตโนมัติ
ปัจจุบันมีรถยนต์ของ Waymo ให้บริการบนแพลตฟอร์ม Uber ในเมืองออสตินแล้ว 100 คัน และจะเริ่มต้นด้วยจำนวน "หลายสิบคัน" ในแอตแลนตา
โดย Uber จะเป็นผู้บริหารจัดการและจัดสรรยานพาหนะ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Jaguar I-PACE ที่ไร้คนขับเต็มรูปแบบ และมีแผนจะ "เพิ่มจำนวนเป็นหลายร้อยคัน" ในอนาคต
สำหรับอัตราค่าโดยสารจะเทียบเท่ากับบริการ UberX, Uber Comfort หรือ Uber Comfort Electric และผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องให้ทิป
แม้ว่าบริการสำหรับบุคคลทั่วไปในแอตแลนตาจะจำกัดอยู่บนถนนทั่วไป (Surface Streets) เท่านั้น แต่ Waymo ก็กำลังทดสอบการวิ่งแบบไร้คนขับเต็มรูปแบบบนทางหลวงในแคลิฟอร์เนียและแอริโซนาสำหรับพนักงานของบริษัทอยู่
นอกจากนี้ Waymo ยังคงเดินหน้าขยายการทดสอบอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ประกาศว่าจะกลับไปทดสอบรถยนต์ในมหานครนิวยอร์กอีกครั้งในเดือนหน้า
และได้ยื่นขอใบอนุญาตเพื่อดำเนินการในแมนฮัตตันโดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแลหลังพวงมาลัย และยังมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวบริการเรียกรถไร้คนขับเต็มรูปแบบในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในปีหน้า
ปัจจุบัน Waymo มีรถยนต์ในระบบมากกว่า 1,500 คัน ให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในซานฟรานซิสโก, ลอสแอนเจลิส, ฟีนิกซ์ และออสติน
การร่วมมือกับ Waymo ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของ Uber หลังจากที่ได้ขายแผนกพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของตนเองไปในปี 2020 เพื่อลดการขาดทุนและหันกลับมามุ่งเน้นธุรกิจหลักด้านบริการเรียกรถและส่งอาหาร
ที่มา : REUTERS