svasdssvasds

Apple เปิดฟีเจอร์ เบลอรูป Airdrop ลามก พร้อมโหมด ล็อคดาวน์ iPhone กันติดไวรัส

Apple เปิดฟีเจอร์ เบลอรูป Airdrop ลามก พร้อมโหมด ล็อคดาวน์ iPhone กันติดไวรัส

Apple ประกาศฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยจากเหล่าแฮกเกอร์และผู้ไม่ประสงค์ดีมากขึ้นด้วยความสามารถล็อกรหัส Safari เบลอรูปลามกจาก Airdrop พร้อมโหมด ล็อคดาวน์ iPhone กันติดไวรัส

Apple เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari, ความปลอดภัยในการสื่อสาร หรือโหมดล็อคดาวน์ รวมถึงการปรับปรุงความเป็นส่วนตัวในแอป นอกจากนี้ Apple ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นสำคัญ

"ผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติใหม่ๆ ทั้งหมดของ Apple ล้วนได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวตั้งแต่แรกเริ่ม" Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว

"เมื่อเป็นเรื่องของข้อมูล เราเน้นให้ผู้ใช้เป็นผู้ควบคุมเองทั้งหมดโดยการเดินหน้าพัฒนาคุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความปลอดภัยของข้อมูลที่ดีที่สุดในโลก และแนวทางนี้ก็ปรากฏเด่นชัดในหลายคุณสมบัติบนแพลตฟอร์มของเรา อย่างการอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari รวมถึงการขยายขอบเขตของโหมดล็อคดาวน์" Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว

โหมดล็อคดาวน์

โหมดล็อคดาวน์ขยายขอบเขตการทำงานเพื่อการปกป้องที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของสปายแวร์แบบว่าจ้างผลิตอันเนื่องมาจากสิ่งที่ผู้ใช้ทำหรือสิ่งที่ผู้ใช้เป็น

ระบบปกป้องใหม่ๆ นั้นก็ครอบคลุมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น การจัดการกับสื่อ ค่าเริ่มต้นในการแชร์สื่อ การทำแซนด์บ็อกซ์ และการปรับแต่งความปลอดภัยของเครือข่ายให้เหมาะสม

โดยเมื่อเปิดโหมดล็อคดาวน์ก็จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการปกป้องอุปกรณ์และจำกัดฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่าง ซึ่งสามารถลดโอกาสเสี่ยงต่อการถูกโจมตีลงได้มากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความอุ่นใจเพิ่มมากขึ้น และโหมดล็อคดาวน์ก็กำลังจะใช้งานบน watchOS ได้ด้วย

เมื่อผู้ใช้เปิดโหมดล็อคดาวน์บน iPhone ก็จะมีการเปิดโหมดล็อคดาวน์สำหรับ Apple Watch ที่จับคู่ไว้ด้วย

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

การท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari

Safari มีการท่องเว็บแบบส่วนตัวก่อนหน้าเบราว์เซอร์อื่นๆ หลายปี และปีนี้ก็มีการอัปเดตครั้งสำคัญที่จะช่วยปกป้องผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งจากการถูกติดตามขณะท่องเว็บ และจากผู้ที่อาจเข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ อย่างคุณสมบัติอันล้ำสมัยที่ปกป้องผู้ใช้จากการถูกติดตามและสะกดรอยนั้นก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ใช้เทคนิคล่าสุดในการติดตามหรือระบุอุปกรณ์ของผู้ใช้

หน้าต่างการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari จะล็อคโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีการล็อคหน้าต่างการเลือกชมเว็บแบบส่วนตัวเมื่อไม่ใช้งาน ผู้ใช้จึงสามารถเปิดแถบเว็บไซต์ทิ้งไว้ได้แม้จะต้องลุกไปทำอย่างอื่น

ซึ่งฟีเจอร์นี้อาจสามารถใช้กับการท่องเฟซบุ๊กในที่ทำงานแล้วล็อกรหัสหน้านั้นไว้ เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งจากเพื่อน ๆ ได้เช่นกัน ขณะที่สำหรับผู้ใช้ Mac ที่ปิดหน้าจอไว้ ก็สามารถล็อกรหัสเพื่อป้องกันคนร้ายที่แอบเข้ามาควบคุมจอผ่านอินเทอร์เน็ตได้เช่นเดียวกัน

การปกป้องจากการถูกติดตามด้วยลิงก์ในแอปข้อความ เมล และการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari

เว็บไซต์บางแห่งใส่ข้อมูลเพิ่มลงใน URL ของตนเพื่อใช้ในการติดตามผู้ใช้ข้ามไปยังเว็บไซต์อื่น แต่วันนี้ข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบออกจากลิงก์ที่ผู้ใช้แชร์ในแอปข้อความและเมลโดยที่ลิงก์นั้นยังคงใช้งานได้เหมือนเดิม และข้อมูลนี้ยังถูกลบออกจากลิงก์ขณะท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari ด้วย

เลือกแชร์รูปแบบแยกแอปฯ ได้ เพื่อป้องกันรูปหลุด

แอปรูปภาพมาพร้อม Picker ใหม่ที่ฝังอยู่ในระบบเพื่อช่วยผู้ใช้แชร์เฉพาะบางรูปกับแอปได้โดยรูปภาพอื่นๆ ที่เหลือในคลังยังคงเป็นส่วนตัว และเมื่อแอปขออนุญาตเข้าถึงคลังรูปภาพทั้งหมด ก็จะมีการแสดงข้อมูลเพิ่มเติมให้ผู้ใช้เห็นว่ากำลังจะแชร์อะไร และมีการเตือนผู้ใช้เป็นระยะถึงสิ่งที่ตัดสินใจเลือกไป

เมื่อมีการขออนุญาตเข้าถึงรูปภาพ จะมีการแจ้งจำนวนรูปภาพและวิดีโอที่ผู้ใช้กำลังจะอนุญาตให้เข้าถึง พร้อมด้วยตัวอย่างบางส่วนของรูปภาพเหล่านั้น

ระบบป้องกันรูปลามก ที่ส่งผ่าน Airdrop จากใครก็ไม่รู้

คุณสมบัติคำเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนจะช่วยให้ผู้ใหญ่สามารถหลีกเลี่ยงการเห็นภาพและวิดีโอลามกไม่พึงประสงค์ที่อาจได้รับทางแอปข้อความ, AirDrop, ข้อความ FaceTime แบบวิดีโอ รวมถึงเมื่อได้รับโปสเตอร์ของรายชื่อในแอปโทรศัพท์ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เทคโนโลยีรักษาความเป็นส่วนตัวเหมือนกับที่อยู่ในคุณสมบัติความปลอดภัยในการสื่อสาร

โดยผู้ใช้สามารถเลือกเปิดคุณสมบัตินี้ได้ในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย นอกจากนี้การประมวลผลรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดสำหรับคุณสมบัติคำเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนยังเกิดขึ้นบนอุปกรณ์เช่นเดียวกับคุณสมบัติความปลอดภัยในการสื่อสาร ซึ่งหมายความว่า Apple และบริษัทอื่นไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหานั้นได้

คำเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนเป็นคุณสมบัติแบบเลือกเปิด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถหลีกเลี่ยงการเห็นรูปภาพและวิดีโอลามกในแอปข้อความและ AirDrop รวมถึงเมื่อได้รับโปสเตอร์ของรายชื่อในแอปโทรศัพท์ หรือได้รับข้อความ FaceTime แบบวิดีโอ โดยสามารถเปิดใช้คำเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนได้ในการตั้งค่าความเป็นส่วตัวและความปลอดภัย

อีกหลายคุณสมบัติที่ออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

  • Check In ช่วยให้ผู้ใช้บอกเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวได้ง่ายๆ ว่าเดินทางถึงที่หมายแล้วอย่างปลอดภัย และเมื่อเปิดใช้งาน คุณสมบัติ Check In ก็จะรู้ได้โดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เดินทางถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ และจะแจ้งให้ผู้ติดต่อที่เลือกไว้รับทราบทางแอปข้อความ แต่ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิดในขณะที่ผู้ใช้อยู่ระหว่างทาง คุณสมบัติ Check In ก็บอกได้ว่าการเดินทางของผู้ใช้ไปยังปลายทางที่แจ้งไว้นั้นไม่คืบหน้า และจะเช็คกับผู้ใช้ว่ายังโอเคอยู่หรือไม่ และหากผู้ใช้ไม่โต้ตอบ คุณสมบัตินี้ก็จะแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ติดต่อที่เลือกไว้ อย่างตำแหน่งที่แม่นยำของผู้ใช้ ระดับแบตเตอรี่ สถานะของสัญญาณโทรศัพท์ และเวลาสุดท้ายที่มีการใช้งาน iPhone ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ขอความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้นในเวลาจำเป็นแล้ว คุณสมบัติ Check In ยังออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยโดยให้ผู้ใช้เป็นผู้ควบคุมเอง ตั้งแต่บุคคลที่ต้องการแชร์ข้อมูลด้วย จนถึงจุดหมายปลายทางและระยะเวลาที่แชร์ โดยผู้ใช้สามารถยุติเซสชั่น Check In ได้ทุกเมื่อ และข้อมูลที่ส่งด้วยคุณสมบัติ Check In จะได้รับการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง จึงมีเฉพาะสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนของผู้ใช้เท่านั้นที่อ่านได้โดยที่ Apple หรือบุคคลอื่นไม่มีทางอ่านได้
  • พบกับ NameDrop ซึ่งเป็นประสบการณ์ AirDrop ใหม่ที่ให้ผู้ใช้ถือ iPhone ไว้ใกล้ๆ อีกเครื่องหนึ่งเพื่อแชร์ข้อมูลการติดต่อเฉพาะกับผู้รับที่ต้องการ โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการแชร์ข้อมูลการติดต่ออะไรบ้าง และที่สำคัญคือเลือกข้อมูลที่ไม่ต้องการแชร์ได้ และผู้ใช้ยังสามารถเลือกแชร์คอนเทนต์อย่างรูปภาพหรือลิงก์ด้วยวิธีเดียวกันได้ด้วย ส่วนผู้ใช้ Apple Watch ก็สามารถใช้ NameDrop ได้เช่นกันโดยการแตะปุ่มแชร์ใน "บัตรรายชื่อของฉัน" ในแอปรายชื่อ หรือแตะกลไกหน้าปัดนาฬิกา "บัตรรายชื่อของฉัน" แล้วหันหน้าจอ Apple Watch ของตัวเองเข้าหาหน้าจอ Apple Watch ของอีกฝ่าย โดยคุณสมบัติใหม่เหล่านี้จะแชร์คอนเทนต์อย่างปลอดภัยผ่านการเชื่อมต่อที่มีการเข้ารหัสเช่นเดียวกับการใช้งาน AirDrop อื่นๆ ทั้งหมด
  • วอยซ์เมลสด ช่วยให้รู้ได้ง่ายขึ้นว่าเมื่อไหร่ที่ควรรับสายโทรศัพท์ โดยเมื่อมีคนโทรมาแล้วเริ่มฝากข้อความ ผู้ใช้ก็จะเห็นการถอดเสียงแบบสดๆ ในขณะที่อีกฝ่ายพูด และหากผู้ใช้ต้องการคุยกับผู้ที่โทรมาก็สามารถรับสายได้ทุกเมื่อ แต่หากเปิดใช้งาน "ปิดเสียงผู้โทรที่ไม่รู้จัก" สายจากหมายเลขที่ไม่รู้จักก็จะเข้าไปที่วอยซ์เมลสดทันทีโดยที่โทรศัพท์ไม่ดัง ส่วนสายโทรที่ผู้ให้บริการระบุว่าเป็นสแปมจะไม่ปรากฏเป็นวอยซ์เมลสด เนื่องจากจะถูกจะตัดสายทันที วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สบายใจยิ่งขึ้นว่าจะไม่ถูกรบกวนจากสแปม สายโทรหลอกลวง หรือสายที่อาจรุกล้ำความเป็นส่วนตัวโดยที่ยังคงไม่พลาดสายสำคัญ และการทำงานของคุณสมบัติวอยซ์เมลสดยังเกิดขึ้นเฉพาะบนอุปกรณ์โดยอาศัยขุมพลังของ Neural Engine และไม่มีการแชร์ข้อมูลนี้กับ Apple

คุณสมบัติเหล่านี้จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี

related