Google เปิดให้ใช้ฟีเจอร์ Find My Device แบบใหม่ในระบบ Android ได้แล้ว
หลังถูกสาวก Apple ขิงมานาน เรื่องฟีเจอร์ Find my iPhone ที่ใช้ค้นหาอุปกรณ์ ล่าสุด ชาว Android ก็ไม่น้อยหน้า เมื่อ Google เปิดให้ใช้ฟีเจอร์ Find My Device (FMD) เฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐและแคนาดาก่อน
SHORT CUT
- Google เปิดตัวเครือข่าย Find My Device (FMD) ใหม่ในเพื่อค้นหาโทรศัพท์และแท็บเล็ต Android ที่สูญหาย
- ผู้ใช้งานจะสามารถระบุตำแหน่งมือถือของตนเองได้ ถึงแม้จะไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และค้นหาได้แม้ปิดเครื่องหรือแบตหมด
- ในพื้นที่ที่มีการใช้งานเครือข่ายหนาแน่น ฟีเจอร์นี้จะค้นหาโดยใช้ตำแหน่งล่าสุดที่เก็บไว้
หลังถูกสาวก Apple ขิงมานาน เรื่องฟีเจอร์ Find my iPhone ที่ใช้ค้นหาอุปกรณ์ ล่าสุด ชาว Android ก็ไม่น้อยหน้า เมื่อ Google เปิดให้ใช้ฟีเจอร์ Find My Device (FMD) เฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐและแคนาดาก่อน
Google เปิดตัวเครือข่าย Find My Device (FMD) รูปแบบใหม่ด้วยเครือข่ายแบบ crowdsource ใหม่ที่มีอุปกรณ์ Android มากกว่าพันล้านเครื่อง Find My Device สามารถช่วยคุณค้นหาโทรศัพท์และแท็บเล็ต Android และสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่สูญหายได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถใช้งานได้แม้ว่าจะออฟไลน์อยู่โดยใช้สัญญาณแท็กติดตาม Bluetooth จาก Chipolo และ Pebblebee ส่วนของของบริษัทอื่นๆเช่น Eufy, Jio, Motorola คาดว่าจะมาในเดือนพฤษภาคม
ฟีเจอร์ Find My Device จะสามารถใช้งานบนอุปกรณ์ทุกรุ่นที่ใช้ Android 9 ขึ้นไป มากกว่าพันล้านเครื่องทั่วโลก
จุดเด่นของ Find My Device ตัวใหม่
ในบล็อกโพสต์ Google อธิบายห้าวิธีที่ผู้ใช้ Android สามารถเข้าสู่เครือข่าย Find My Device ใหม่ ที่ง่ายมากขึ้น
- คุณสามารถค้นหาโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ที่ใช้งานร่วมกันได้โดยการกดปุ่มหรือดูตำแหน่งของเครื่องบนแผนที่ เครือข่ายจะค้นหาอุปกรณ์ที่รองรับแม้ว่าจะออฟไลน์อยู่
- ด้วยฮาร์ดแวร์ Pixel แบบพิเศษ เจ้าของ Pixel 8 และ 8 Pro จะสามารถค้นหาอุปกรณ์ของตนได้แม้ว่าจะปิดเครื่องอยู่หรือแบตเตอรี่หมดก็ตาม
- ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คุณจะสามารถค้นหาสิ่งของด้วยแท็กติดตามบลูทูธในแอป Find My Device ได้ แท็กเหล่านี้ซึ่งสร้างขึ้นโดยเฉพาะ จะใช้งานได้กับการแจ้งเตือนเครื่องติดตามที่ไม่รู้จักทั้งใน Android และ iOS เพื่อช่วยปกป้องคุณจากการติดตามที่ไม่พึงประสงค์
- บ่อยครั้งที่เราทำสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กุญแจหรือโทรศัพท์หายในบ้าน ดังนั้นแอป Find My Device จะแสดงระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ที่สูญหายกับอุปกรณ์ Nest ในบ้านของคุณ ซึ่งเป็นจุดอ้างอิงที่ง่ายดาย
กรณีที่ไม่มีเครือข่าย คุณยังคงสามารถค้นหาอุปกรณ์ออฟไลน์ของคุณโดยใช้ตำแหน่งล่าสุดที่เก็บไว้เมื่ออุปกรณ์เหล่านั้นออนไลน์ ส่วนในพื้นที่ที่มีการใช้งานเครือข่ายหนาแน่น ฟีเจอร์นี้จะค้นหาโดยใช้ตำแหน่งล่าสุดที่เก็บไว้ หรือใช้เครือข่ายในพื้นที่เช่นสนามบินหรือทางเท้าที่พลุกพล่าน เพื่อช่วยค้นหาสิ่งของที่สูญหาย ข้อมูลตำแหน่งจากอุปกรณ์จะถูกใช้กรณีที่ผู้อื่นในเครือข่ายตรวจพบด้วย
ก่อนหน้านี้ Find My Device ได้ประกาศเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2023 แต่ก็ไม่สามารถเปิดใช้งานตามเป้าหมาย เนื่องจากมีรายงานว่า Google ชะลอเครือข่าย Find My Device สำหรับอุปกรณ์ Android จนกว่า Apple จะอัปเดต iOS เพื่อป้องกันไม่ให้ AirTags ใช้ประโยชน์จากมันเพื่อติดตามผู้คน ตามข้อกำหนดมาตรฐานของอุตสาหกรรม
ที่มา
