SHORT CUT
Microsoft สั่งปรับกฎพนักงานไมโครซอฟต์ในจีนบังคับให้เปลี่ยนมาใช้ iPhone 15 แทนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์
ไมโครซอฟต์ เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลบริษัท จึงจำเป็นจำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟนในบริษัทและบังคับให้ใช้ iPhone ในการทำงานแทน
ในอนาคตบริษัทรวมถึงองค์กรต่างๆต้องเริ่มใส่ใจเกี่ยวกับข้อมูลสำคัญของบริษัทที่อาจรั่วไหล โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานจะต้องปลอดภัยมากขึ้น เพื่อป้องกันการแฮกข้อมูลต่างๆ
Microsoft (ไมโครซอฟต์) ประกาศด่วน แจ้งพนักงานในจีนที่ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ให้เปลี่ยนมาใช้ iPhone 15 ที่บริษัทจัดหาให้เพื่อทำงานแทน โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย
Microsoft ประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้งานสมาร์ทโฟนสำหรับพนักงานในประเทศจีน โดย ห้ามใช้สมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ และบังคับให้พนักงานทุกคนใช้ iPhone 15 ที่บริษัทจัดหาให้แทน
เหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือประเด็นด้านความปลอดภัย ไมโครซอฟต์ต้องการจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชัน และข้อมูลสำคัญของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคจีนที่ Google Play Store ไม่สามารถใช้งานได้
การปรับกฏครั้งนี้พนักงานไมโครซอฟต์ในจีนจะได้รับ iPhone 15 และบังคับให้ติดตั้งแอป Authenticator และ Identity Pass ของบริษัทบน iPhone เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้อุปกรณ์สำหรับการทำงาน
การเปลี่ยนแปลงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Secure Future Initiative ของไมโครซอฟต์ ซึ่งต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กร หลังจากเจอกับเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่าไมโครซอฟต์มีแผนจะเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ในประเทศอื่นๆ
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ การตัดสินใจของไมโครซอฟต์อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในจีน ซึ่งทำให้ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายอื่นๆอาจต้องพิจารณาเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง iPhone
Microsoft เองก็ยอมรับว่านโยบายนี้มีข้อจำกัดและบริษัทจะพยายามหาวิธีอื่นๆ ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของพนักงานในอนาคต
คาดว่าการที่ Microsoft เริ่มกังวลเรื่องความปลอดภัยของมือถือแอนดรอยด์ เพราะรัฐบาลจีนมีอำนาจควบคุมข้อมูลและอินเทอร์เน็ตภายในประเทศ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่ข้อมูลบนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อาจถูกเข้าถึงข้อมูลบริษัทได้ ประกอบกับแอปพลิเคชันบางตัวที่จำเป็นสำหรับการทำงานของ Microsoft อาจไม่สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในจีน
ที่มา : PCmag