svasdssvasds

มิจฉาชีพ แฮกมือถือผ่านแอพฯ ธนาคาร เสียหายกว่าล้านบาท

มิจฉาชีพ แฮกมือถือผ่านแอพฯ ธนาคาร เสียหายกว่าล้านบาท

เพจสายไหมต้องรอด เผยเหยื่อถูกมิจฉาชีพหลอกแฮกมือถือ พบผู้เสียหาย นับ 10 ราย เสียหายกว่าล้านบาท เตรียมพาผู้เสียหายร้อง ตำรวจไซเบอร์ 17 ม.ค.นี้

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้นำ นายบุรินทร์ บัวผัน และนายกิตติกร จันทร์แก้ว 2 ผู้เสียหายเข้าร้องสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพแฮกข้อมูลโทรศัพท์ ก่อนโอนเงินออกไปจากบัญชีธนาคาร มีผู้เสียหาย มากกว่า 10 ราย ความเสียหายมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียน เรื่องถูกแฮกโทรศัพท์ และมีการโอนเงินเข้าไปยังบัญชีอื่นๆ ซึ่งจากที่ตนได้สอบถามผู้เสียหาย มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะพฤติการณ์ของมิจฉาชีพมีการพัฒนาขึ้น

จากปกติก่อนหน้านี้ จะมีการส่งลิงค์ต่างๆ มาหลอกให้กดเพื่อดูดข้อมูล หรือเป็นช่องทางในการเข้าถึงโทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชั่นธนาคาร 

ซึ่งผู้เสียหายกลุ่มนี้ ค่อนข้างระวังตัวมาก ไม่โหลดแอพฯแปลกๆ ไม่ชาร์ทแบตหรือใช้ไวไฟสาธารณะ แต่จู่ๆ มีข้อความจากธนาคารแจ้งเตือนว่าได้มีการโอนเงินจากธนาคารของตัวเอง ไปยังธนาคารปลายทาง ทั้งๆ ที่ผู้เสียหายเองไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ จึงเชื่อว่าตอนนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และน่าจะขยายวงกว้างออกไปอีก 

ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเมื่อช่วงต้นปี ตั้งแต่วันที่ 5-14 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเงินของผู้เสียหายจะถูกโอนเข้าไปในหลายบัญชี แต่หลักๆ ที่ถูกโอนเข้าไป คือบัญชีของนายจักรกฤษ (สงวนนามสกุล) ยอดเงินของผู้เสียหายมีตั้งแต่ยอดเล็กๆ ไปจนถึง 5 แสนบาท ซึ่งโทรศัพท์ทั้งหมดที่ถูกแฮกจะเป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ทั้งหมด 

มิจฉาชีพ แฮกมือถือผ่านแอพฯ ธนาคาร เสียหายกว่าล้านบาท

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ ผู้เสียหายบางรายที่ใช้ไอโฟน และอาจจะมีเหล่ามิจฉาชีพพยายามแฮกเข้ามาควบคุมโทรศัพท์ แต่ไอโฟนจะมีข้อความแจ้งเตือนมายังเครื่องว่า “ระวัง!! ตรวจจับการใช้โปรแกรมควบคุมหน้าจอ ให้ทำการปิดเครื่อง และเปิดเครื่องอีกครั้ง เพื่อใช้งาน” ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่ หลายหน่วยงานต้องเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย หรือกระทรวงการคลัง 

และในวันอังคารที่ 17 มกราคม เวลา 13.30น. นี้ จะนำผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เพื่อแจ้งความ ติดตามจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี รวมไปถึงหาแนวทางให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

สำหรับการแก้ปัญหาแก่ผู้ที่ใช้แอนดรอยด์ และมีแอปพลิเคชั่นอยู่ในเครื่อง เบื้องต้นแนะนำให้ลบแอพออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัย

มิจฉาชีพ แฮกมือถือผ่านแอพฯ ธนาคาร เสียหายกว่าล้านบาท

ด้าน นายกิตติกร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา พบว่าโทรศัพท์ของตัวเองมีลักษณะผิดปกติคือ หน้าจอดับ แต่โทรศัพท์สั่น ใช้การไม่ได้ไปประมาณ 1 ชม.กว่าๆ หลังจากนั้นโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่แอพฯ ของธนาคาร กลับมีการแจ้งเตือนว่า แอปพลิเคชั่นของธนาคารไม่ได้ถูกติดตั้งโดย Playstore ให้ทำการลบแอพฯออก และติดตั้งใหม่ 

ซึ่งตอนนั้นเงินยังไม่ได้หายออกไปจากธนาคาร จนกระทั่งวันที่ 11 มกราคม ช่วงเวลา 10.00-12.30 น. ตนเอาโทรศัพท์ไปชาร์ทแบต และนอนหลับไป จนกระทั่งประมาณบ่าย 3 ตื่นขึ้นมาดูโทรศัพท์ พบว่าเงินในแอพฯ ธนาคาร ได้หายออกไปจากบัญชีทั้งหมดจำนวน 92,709 บาท เข้าบัญชี นายจักรกฤษ

ขณะที่ นายจักรกริช อินทรังษี น้องชายของ นายบุรินทร์ บัวผัน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา กำลังนั่งคุยกับพี่ชาย ที่บ้านเพื่อวางแผนการทำงาน ส่วนโทรศัพท์ได้ชาร์ทแบตทิ้งไว้ที่โต๊ะใกล้ๆ กัน

จู่ๆ มีข้อความและสลิปจากธนาคารแจ้งเข้ามาว่า มีการโอนเงินจากแอพฯ ธนาคารของตน โอนไปยังอีกธนาคาร ของนายจักรกฤษ จำนวน 100,000 บาท ซึ่งตนและพี่ชายตกใจมาก เพราะไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรม และ ยอดเงินที่ออกไปเป็นเงินจำนวนมาก และเป็นเงินที่ตนต้องใช้ในการทำงานต่อหลังจากนี้ด้วย 

จากนั้นได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.บางประอิน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร จึงเข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด ตอนนี้มีการรวบรวมผู้เสียหายได้มากว่า 10 ราย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะหากช้าอาจจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้

related