SHORT CUT
ประเทศไทย โดยกระทรวง DE ประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลและ AI ของภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2570 โดยมองว่า AI คือเครื่องยนต์หลักในการเติบโต
รัฐบาลมีแผนปฏิบัติการ 3 ด้าน ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัยไซเบอร์ และที่สำคัญคือการลงทุนครั้งใหญ่ในการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลจำนวนมหาศาล เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม AI
หัวเว่ย แสดงบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายของไทยผ่านความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ (จุฬาฯ) และการเปิดตัวโซลูชัน AI และ Cloud ที่ทันสมัย ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงแอปพลิเคชัน รวมถึงการสร้างระบบนิเวศนักพัฒนา
กระทรวง DE ตอกย้ำวิสัยทัศน์ "ศูนย์กลางดิจิทัลและ AI อาเซียน" ปี 2570 ในงาน Huawei Summit 2025 ชู AI และนวัตกรรมดิจิทัลเป็นแกนหลักขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน
ประเทศไทย กำลังเร่งเครื่องขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มกำลัง โดยมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นหัวหอกสำคัญ
ล่าสุดในงาน "Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น "ศูนย์กลางด้านดิจิทัลและ AI ของอาเซียน" ภายในปี 2570
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในปาฐกถาพิเศษว่า AI และนวัตกรรมดิจิทัลคือกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
"เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะขยายตัว 7.3% ในปี 2568 ภายใต้นโยบาย Growth Engine of Thailand เรามุ่งเสริมศักยภาพทางดิจิทัล ควบคู่กับการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย และพัฒนาบุคลากรดิจิทัลทักษะสูง"
รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ดิจิทัล 3 แกนหลักเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว หัวเว่ยและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ประกาศความร่วมมือเพื่อผลักดันระบบนิเวศนวัตกรรม AI และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน ศาสตราจารย์ ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
"ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคการศึกษา" โดยจะครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ICT, หลักสูตรร่วมด้าน AI, Cloud, Big Data, IoT และการปรับเปลี่ยนสู่ Smart Campus ความร่วมมือนี้จะอาศัย 4 เสาหลักของ Huawei ASEAN Academy (Thailand) เพื่อพัฒนาบุคลากรอย่างรอบด้าน
ด้านนายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำว่า AI เป็นพลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าของสังคม และหัวเว่ยต้องการยกระดับทุกภาคส่วน
ขณะที่นายวิลเลียม ตง ประธานฝ่ายการตลาดของหัวเว่ย คลาวด์ เน้นว่า AI กลายเป็นกลไกขับเคลื่อนนวัตกรรมโลก โดยมีคลาวด์เป็นรากฐาน และ Huawei Cloud พร้อมสนับสนุนไทยสู่ศูนย์กลาง AI แห่งอาเซียน
ภายในงาน หัวเว่ยยังได้เปิดตัวโซลูชัน AI รุ่นใหม่ล่าสุดหลายรายการ เช่น AI-native Cloud Infrastructure, AI-ready Data Infrastructure, AI Connectivity, โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) อย่าง Pangu LLM และ DeepSeek ที่ปรับให้เข้ากับบริบทอุตสาหกรรมไทย, โซลูชัน Digital Power ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแอปพลิเคชัน AI สำหรับผู้บริโภคและองค์กร
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนวัตกรรมจากพันธมิตรกว่า 40 ราย และเปิดตัวชุมชนเทคโนโลยีใหม่ 3 กลุ่ม ได้แก่ IP Club, OpiX Club และ OceanClub เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของวิศวกรไทย