SHORT CUT
ความสำเร็จของ NVIDIA เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายจากมาตรการควบคุมการส่งออกของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งปิดกั้นการเข้าถึงตลาดจีนมูลค่ามหาศาล แต่ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ผลประกอบการ NVIDIA ล่าสุดที่เติบโตเกือบ 70% และการมองไปยังโอกาสใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
หุ้น NVIDIA (NVDA) พุ่งทำสถิติใหม่ แซง Microsoft ขึ้นแท่นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนในฐานะผู้นำชิป AI แม้เผชิญความท้าทายในตลาดจีน
หุ้น NVIDIA (NVDA) พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปิดที่ราคา $154.31 ต่อหุ้น ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ส่งผลให้มูลค่าตลาด (Market Cap) ของบริษัททะยานขึ้นสู่ 3.77 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
"แซงหน้า Microsoft และขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ" ตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าตำแหน่งผู้นำด้าน AI ของบริษัทจะไม่สั่นคลอน แม้ต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมการส่งออกไปยังประเทศจีนก็ตาม
การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับหลายฝ่าย เนื่องจากบริษัทออกมายอมรับว่าถูกตัดขาดจากตลาดจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกกฎระเบียบใหม่ที่ระงับการขายชิป AI รุ่น H20 ที่ NVIDIA พัฒนาขึ้นเพื่อปฏิบัติตามข้อจำกัดเดิม ทำให้บริษัทไม่สามารถเข้าถึงตลาดจีนที่มีมูลค่ามหาศาลได้
Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า "ตลาดจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกปิดตายสำหรับอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง"
ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้ที่คาดการณ์ไว้ถึง "8 พันล้านดอลลาร์ และต้องตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์"
อย่างไรก็ตาม แม้จะเผชิญกับอุปสรรคสำคัญในตลาดจีน รายงานผลประกอบการล่าสุดของ NVIDIA ในเดือนพฤษภาคมกลับแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง "69%" เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขับเคลื่อนโดยธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่เติบโตสูงถึง "73%" นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลอดปีงบประมาณนี้ NVIDIA จะมีรายได้เติบโตถึง "53%" คิดเป็นมูลค่าเกือบ "2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ"
ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีซึ่งจัดขึ้นในวันเดียวกัน Jensen Huang ได้กล่าวถึงโอกาสในการเติบโตในอนาคต โดยระบุว่านอกเหนือจาก AI แล้ว "หุ่นยนต์ (Robotics)" คือโอกาสการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดลำดับถัดไปของบริษัท
สำหรับนักลงทุนที่กังวลว่าราคาหุ้น NVIDIA อาจสูงเกินไปแล้ว การพิจารณาตัวชี้วัดมูลค่าอาจให้มุมมองที่แตกต่างออกไป ปัจจุบัน หุ้น NVIDIA มีค่า Forward P/E ที่ 31.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีของบริษัทเอง และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนี Nasdaq 100 เพียงเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนำอัตราการเติบโตที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาคำนวณผ่านอัตราส่วน PEG (Price/Earnings-to-Growth) พบว่า NVIDIA มีค่านี้อยู่ที่ประมาณ 0.9
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วค่าที่ต่ำกว่า 1 บ่งชี้ว่าราคาหุ้นอาจยังไม่แพงเมื่อเทียบกับการเติบโต และค่านี้ยังถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในบรรดาหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำ 7 แห่งอีกด้วย
ที่มา : CNBC