SHORT CUT
Intel ภายใต้ CEO ใหม่ เริ่มแผนลดต้นทุนครั้งใหญ่ เล็งปลดพนักงานสูงสุด 20% ทั่วโลก พร้อมปิดแผนกชิปรถยนต์ในเยอรมนี และจ้าง Accenture ทำหน้าที่การตลาดแทน
Intel ได้เริ่มต้นแผนการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ "ลิป-บู ตัน (Lip-Bu Tan)" CEO คนใหม่ มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อพนักงานทั่วโลกสูงสุดถึง "20%" รวมถึงการปิดหน่วยธุรกิจสำคัญและการจ้างบริษัทภายนอก (Outsource) เข้ามาทำหน้าที่แทน
"การเลิกจ้าง" ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมีการยื่นเอกสารตามกฎหมาย WARN Act ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อแจ้งการเลิกจ้างพนักงาน 107 คน ณ สำนักงานใหญ่ซานตาคลารา ซึ่งจะมีผลในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
พนักงานกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วยวิศวกรและผู้จัดการอาวุโสในทีมพัฒนา CPU และ GPU ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการปรับลดพนักงานทั่วโลกครั้งใหญ่
รายงานระบุว่า ตำแหน่งงานที่ถูกปรับลดจำนวนมากเกี่ยวข้องโดยตรงกับการออกแบบและผลิตชิป ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท
อาทิ วิศวกรออกแบบกายภาพ (Physical Design Engineer) 22 ตำแหน่ง, นักพัฒนาซอฟต์แวร์คลาวด์ และนักออกแบบ System-on-Chip (SoC) นอกจากนี้ยังรวมถึงตำแหน่งระดับบริหาร เช่น รองประธานฝ่ายไอที, ผู้จัดการโครงการวิศวกรรม และหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์
Intel กล่าวว่า "ตามที่เราได้ประกาศไปเมื่อต้นปี เรากำลังดำเนินการเพื่อปรับองค์กรให้กระชับ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น"
"การลดความซับซ้อนขององค์กรและเพิ่มอำนาจให้วิศวกรจะช่วยให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้น"
แผนการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 และอีก 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2026 โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับแจ้งล่วงหน้า 60 วัน หรือได้รับค่าจ้างและสวัสดิการชดเชยเป็นเวลา 9 สัปดาห์
นอกจากการเลิกจ้างในสหรัฐฯ อินเทลยังยืนยันการปิดหน่วยธุรกิจชิปสำหรับยานยนต์ (Automotive Chip Division) ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในธุรกิจดาวรุ่งที่บริษัทเดิมพันสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ซีอีโอคนใหม่ต้องการหันกลับมามุ่งเน้นธุรกิจหลักของบริษัทอย่างกลุ่ม Client (คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล) และ Data Center
ในขณะเดียวกัน อินเทลได้ตัดสินใจจ้างบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง แอคเซนเจอร์ (Accenture) เข้ามาดูแลงานด้านการตลาดบางส่วน
โดยเฉพาะบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งจะมีการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้มากขึ้น เพื่อปรับปรุงกระบวนการให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
ลิป-บู ตัน ได้สื่อสารกับพนักงานอย่างชัดเจนถึงความต้องการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เขาได้วิจารณ์แนวทางการบริหารในอดีตที่มักให้รางวัลแก่ผู้จัดการโดยอิงจากขนาดของทีมที่ดูแล
ผมแปลกใจที่ได้เรียนรู้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา KPI ที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้จัดการหลายคนในอินเทลคือ "ขนาดของทีม" แต่จากนี้ไปจะไม่เป็นเช่นนั้นอีก
ซีอีโอคนใหม่เน้นย้ำปรัชญาที่ว่า "ผู้นำที่ดีที่สุดคือผู้ที่สร้างผลงานได้มากที่สุดโดยใช้คนน้อยที่สุด"
โดยระบุว่าอินเทลต้องการทีมขนาดเล็กที่มีอำนาจตัดสินใจ สามารถรับผิดชอบโครงการและขับเคลื่อนงานได้อย่างรวดเร็วโดย "ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อน"
การปรับโครงสร้างครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมชิป และเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการเลิกจ้างในวงการเทคโนโลยีที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเว็บไซต์ Layoffs.fyi รายงานว่ามีพนักงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีถูกเลิกจ้างไปแล้วกว่า 62,000 คนในปี 2025 นี้
ที่มา : Economictimes