svasdssvasds

OpenAI เปิดตัว GPT-5 มีอะไรใหม่ เริ่มทดลองใช้ฟรี เดือนสิงหาคมนี้

OpenAI เปิดตัว GPT-5 มีอะไรใหม่ เริ่มทดลองใช้ฟรี เดือนสิงหาคมนี้

OpenAI กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เจเนอเรชันถัดไปอย่าง GPT-5 โดยมีกำหนดการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2025

SHORT CUT

  • GPT-5 จะไม่ใช่แค่เครื่องมือตอบคำถาม แต่จะเป็นผู้ช่วยที่สามารถทำงานหลายขั้นตอนได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะเปลี่ยนนิยามการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ไปอย่างสิ้นเชิง
  • กลยุทธ์การเปิดให้ใช้งานฟรีในเวอร์ชันพื้นฐานจะเร่งการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ในระดับโลก ในขณะที่ยังคงสร้างรายได้จากผู้ใช้งานระดับองค์กรและผู้ที่ต้องการความสามารถขั้นสูง
  • แม้ GPT-5 จะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ OpenAI และแวดวงเทคโนโลยีต่างให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้น เพื่อรับมือกับความท้าทายทางจริยธรรมที่มาพร้อมกับ AI ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

OpenAI กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เจเนอเรชันถัดไปอย่าง GPT-5 โดยมีกำหนดการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2025

OpenAI ประกาศเตรียมเปิดตัว GPT-5 โมเดลปัญญาประดิษฐ์เจเนอเรชันถัดไปอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2025

ด้วยความสามารถที่ก้าวกระโดด โดยเฉพาะการพัฒนาสู่การเป็น "AI Agent" ที่สามารถดำเนินงานซับซ้อนหลายขั้นตอนได้ด้วยตนเอง 

Sam Altman ได้ลองนำคำถามที่ซับซ้อนจากอีเมลซึ่งตัวเขาเองไม่เข้าใจ ไปถาม GPT-5 และปัญญาประดิษฐ์รุ่นล่าสุดนี้สามารถให้คำตอบที่ "สมบูรณ์แบบมาก"

GPT-5 เวอร์ชันใหม่ ทำอะไรได้บ้าง

GPT-5 ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นมากกว่า 'Chatbot' แต่จะเป็น 'AI Agent' ที่สามารถทำงานให้เสร็จได้ด้วยตนเองโดยเชื่อมต่อกับเครื่องมือภายนอกและ API ซึ่งจะลดการควบคุมจากมนุษย์ลงอย่างมาก 

  • การให้เหตุผลที่ซับซ้อน : ลดข้อผิดพลาดในการสร้างข้อมูลเท็จ (Hallucinations) และเพิ่มความแม่นยำของข้อเท็จจริง
  • ความสามารถหลายรูปแบบ (Multimodal) : ประมวลผลได้ทั้งข้อความ, รูปภาพ, เสียง และอาจรวมถึงวิดีโอได้อย่างไร้รอยต่อในระบบเดียว
  • หน่วยความจำและบริบทที่เหนือกว่า : จดจำการสนทนาได้นานขึ้น และรองรับข้อมูลนำเข้า (Context Window) ได้มหาศาล อาจสูงถึง 1 ล้านโทเค็น
  • การเข้าถึงข้อมูลเรียลไทม์ : สามารถค้นหาข้อมูลล่าสุดจากอินเทอร์เน็ต เพื่อให้คำตอบที่ทันสมัยและแม่นยำ

GPT-5 จะมาพร้อมรุ่นย่อย mini และ nano เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถเลือกโมเดลที่ตรงกับงานแต่ละประเภทได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่ผู้ใช้ทั่วไปถึงระดับองค์กร

Sam Altman ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการทำให้ GPT-5 เป็น "เครื่องมือสร้างความเท่าเทียมทางอารยธรรม"

โดยตั้งเป้าให้เวอร์ชันพื้นฐาน "สามารถใช้ได้ฟรีสำหรับทุกคนทั่วโลก" เพื่อลดช่องว่างทางดิจิทัลและช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานได้

อย่างไรก็ตาม OpenAI จะยังคงรักษารูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนผ่านโมเดล "ฟรีเมียม" โดยจะมีเวอร์ชัน Plus และ Pro สำหรับผู้ที่ต้องการ "ระดับความฉลาดที่สูงขึ้น" และฟีเจอร์ขั้นสูง

ขณะที่ราคา API สำหรับนักพัฒนาและองค์กรคาดว่าจะสูงกว่า GPT-4 Turbo เพื่อสะท้อนถึงต้นทุนและความสามารถที่เพิ่มขึ้น

การมาถึงของ AI ที่ทรงพลังย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ OpenAI ตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

จึงได้ให้ความสำคัญกับการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีการอ้างอิงถึงการประเมินโมเดลในฐานข้อมูลเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพ (SecureBio) ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพที่สูงของโมเดล

ประเด็นด้านจริยธรรมยังคงเป็นหัวข้อสำคัญ ทั้งเรื่องอคติในข้อมูล, การแพร่กระจายข้อมูลเท็จ, ความเป็นส่วนตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังเร่งหาแนวทางรับมือ เพื่อให้แน่ใจว่านวัตกรรมจะดำเนินไปพร้อมกับความปลอดภัย

การมาของ GPT-5 จะส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยคาดว่าจะถูกผนวกรวมเข้ากับบริการหลักของ Microsoft เช่น Copilot อย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรอย่างมหาศาล

ตั้งแต่การเขียนโค้ดไปจนถึงการวิจัยและสร้างสรรค์เนื้อหา สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมากขึ้นผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิต

ที่มา : The VergeYahoo Finance

related