svasdssvasds

"หัวเว่ย" ชี้จุดเปลี่ยนประเทศไทย: เมื่อ AI ผนวก "พลังงานสะอาด" คือกุญแจสู่ Smart City

"หัวเว่ย" ชี้จุดเปลี่ยนประเทศไทย: เมื่อ AI ผนวก "พลังงานสะอาด" คือกุญแจสู่ Smart City

"หัวเว่ย" ชี้จุดเปลี่ยนประเทศไทย: เมื่อ AI ผนวก "พลังงานสะอาด" คือกุญแจสู่ Smart City และเศรษฐกิจที่จับต้องได้

ในงานสัมมนา PostToday Thailand Smart City 2026: Data Center ผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย ประเทศไทย ได้ฉายภาพอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยชี้ว่าจุดตัดระหว่าง "เทคโนโลยีไอที" และ "เทคโนโลยีพลังงาน" จะเป็นปัจจัยชี้ขาดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พร้อมยกให้ AI เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน "เศรษฐกิจที่แท้จริง" (Real Economy)

ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "Data Center - พลิกประเทศ" โดยระบุว่า โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เส้นแบ่งระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และเทคโนโลยีพลังงาน (Energy) เลือนหายไป ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สองสิ่งนี้ได้หลอมรวมกันจนแยกไม่ออก และกลายเป็นรากฐานสำคัญของการสร้าง "ความฉลาดทางดิจิทัล" (Digital Intelligence)

AI คือ "พระเอก" และ Data คือ "อาหารหลัก"

ดร.ชวพล เปรียบเทียบว่า ในสมรภูมิเทคโนโลยีปัจจุบัน AI เปรียบเสมือน "พระเอก" ที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีข้างเคียงหลายด้าน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ "ข้อมูล" (Data) ซึ่งเป็นเสมือนอาหารหล่อเลี้ยง

"วันนี้เรากำลังพูดถึงข้อมูลในเจเนอเรชันใหม่ ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นข้อมูลที่สะท้อนพฤติกรรม (Behavior) ทั้งของมนุษย์ ของภาคอุตสาหกรรม หรือแม้แต่สิ่งไม่มีชีวิตในเมือง" ดร.ชวพล กล่าว

เทคโนโลยีปัจจุบันมีความสามารถในการดักจับ (Capture) ข้อมูลได้ทุกมิติ ตั้งแต่พฤติกรรมการเงิน สุขภาพ การค้าปลีก ไปจนถึงข้อมูลระดับเมือง (Smart City) ซึ่งนำไปสู่การสร้าง "ฝาแฝดดิจิทัล" (Digital Twin) หรือแบบจำลองเมืองเสมือนจริง ที่ช่วยให้ผู้บริหารเมืองสามารถบริหารจัดการทรัพยากรอย่าง น้ำและไฟฟ้า ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้

โครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่: 3 เสาหลักแห่ง Digital Energy

เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ดร.ชวพล เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ 3 ด้าน (New Infrastructure) เพื่อก้าวเข้าสู่ยุค Digital Energy อย่างเต็มตัว ได้แก่:

  • โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานรูปแบบใหม่ (New Power Supply)
  • โครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (New EV)
  • โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล (New Digital Industry)

การวางรากฐานเหล่านี้ จะเป็นตัวเชื่อมต่อความฉลาดทางคมนาคมและอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน ซึ่งต้องอาศัยการจัดการข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนและมีขนาดมหาศาล

จากทฤษฎีสู่ "Real Economy"

ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดจากการบรรยาย คือการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในโลกความเป็นจริงเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ดร.ชวพล ยกตัวอย่างการใช้งานที่เกิดขึ้นจริงแล้ว:

ด้านความปลอดภัย: การใช้ AI CCTV นับล้านตัวในเมืองใหญ่ของจีน เพื่อบริหารจัดการความปลอดภัยและจราจร

ด้านการแพทย์: AI ช่วยสรุปข้อมูลและให้คำแนะนำ (Guideline) แก่แพทย์ ทำให้แพทย์เฉพาะทางสามารถดูแลผู้ป่วยในต่างจังหวัดได้ผ่านระบบทางไกล รวมถึงช่วยวิจัยยารักษาโรค

ด้านอุตสาหกรรมและธุรกิจ: การใช้ AI จับพฤติกรรมในโรงงานเพื่อคาดการณ์ยอดขายและการผลิต หรือการใช้ใน Conversational Banking เพื่อบริการลูกค้า

ความท้าทาย: ราคาที่ต้องจ่ายและความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ดร.ชวพล ทิ้งท้ายด้วยการเตือนถึงความท้าทายที่มาพร้อมกับโอกาส โดยเฉพาะเรื่อง "ข้อมูล" ที่มีทั้งแบบที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง (Structured & Unstructured) ซึ่งนำมาสู่ประเด็นเรื่อง ความปลอดภัย (Security), อำนาจอธิปไตยของข้อมูล (Sovereignty) และอคติของข้อมูล (Bias)

นอกจากนี้ "ต้นทุน" ยังเป็นปัจจัยที่น่ากังวล เนื่องจากต้นทุนทางเทคโนโลยีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ (Exponentially) ทางออกที่เสนอคือการใช้เทคโนโลยีแบบ Open Source เพื่อสร้างระบบตรวจสอบถ่วงดุล (Check and Balance) และป้องกันการผูกขาดเทคโนโลยี (No Lock-in)

วิสัยทัศน์ของหัวเว่ยในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า "Smart City" ไม่ใช่เพียงแค่การติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัย แต่คือการวางระบบนิเวศที่ผสานพลังงานและข้อมูลเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

related