คุยกับคุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช อย่างเจาะลึก ตั้งแต่การท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล จนถึงอนาคตธุรกิจท่องเที่ยว ในโลกยุคหลังโควิด-19
จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี ที่ "การท่องเที่ยว" เป็นอีกกลุ่มธุรกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
แต่เมื่อสถานการณ์ภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย จนรัฐบาลปลดล็อกสถานที่ต่างๆ “สวนนงนุช พัทยา” หลังจากปิดให้บริการชั่วคราวไปร่วม 2 เดือน ก็ประกาศเปิดให้บริการในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นสำหรับชาวชลบุรี ให้เที่ยวฟรี 1 เดือนไปเลย
โดยทีมข่าวสปริงนิวส์ได้สัมภาษณ์ คุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช อย่างเจาะลึก ทั้งเรื่องมาตรการป้องกันฯ ตามแนวทาง นิวนอร์มอล นิวสวนนงนุช
รวมถึงกลยุทธ์และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ จนอยากกลับมาอีกหลายๆ ครั้ง
มาตรการป้องกันโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยว
คุณกัมพล เริ่มต้นด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ว่า ทางสวนนงนุชได้เตรียมความพร้อมด้านนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถชมความงดงามตามจุดต่างๆ ภายในสวนได้อย่างสบายใจ
“เราเตรียมพร้อมไว้แล้วครับ สิ่งแรกก็คือตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้ารับบริการ ถ้าลูกค้าไม่มี เรามีจำหน่ายให้ในราคาย่อมเยา”
“ก่อนเข้าและออก ต้องเดินผ่านอุโมงค์ฆ่าเชื้อ มีการบันทึกประวัติลูกค้า โดยใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ของรัฐบาล
“จัดให้มีการเว้นระยะห่างทางเดินทุกๆ 1 เมตร เน้นรับค่าบริการผ่านระบบโมบายแบงค์กิ้ง ถ้าจำเป็นต้องรับเงินสด จะใช้ซองฆ่าเชื้อ ทั้งรับเงินและทอนเงิน
“ให้บริการเจลล้างมือและอ่างล้างมือกระจายตามจุดต่างๆ ภายในสวน รวมถึงมีการเเยกถังขยะสำหรับใส่หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว
“มีการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ต่างๆ ทุก 4 ชั่วโมง พนักงานสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกจุด
“บนรถชมวิว จะมีการจัดที่นั่งภายในรถให้ห่างกัน และร้านอาหารต่างๆ ก็จะมีการจัดตามมาตรฐานการป้องกันเชื้อโควิด-19” คุณกัมพลกล่าว
ชาวชลบุรีเที่ยวสวนนงนุชฟรี 1 เดือน
ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม สวนนงนุชได้จัดโปรโมชั่นให้ชาวชลบุรีเที่ยวฟรี 1 เดือน เพื่อให้คนในพื้นที่สามารถเที่ยวแบบไปกลับได้ภายใน 1 วัน และสามารถกลับถึงบ้านได้ทันเวลา แบบไม่ต้องฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ซึ่งหากมีการผ่อนปรนมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหสถาน คุณกัมพลกล่าวว่า อาจจะให้ชาวจังหวัดใกล้เคียง หรือจังหวัดอื่นๆ ได้เข้ามาเที่ยวสวนนงนุชฟรีเช่นกัน
“เพื่อให้เศรษฐกิจมันเดินได้ ไม่ใช่เฉพาะสวนนงนุชอย่างเดียว ระหว่างทางที่เขามาเที่ยวสวนนงนุช ก็อาจแวะทานข้าว ทานอาหาร แวะดูชายหาด ร้านเล็กๆ ระหว่างทาง ก็จะมีรายได้ขึ้นมา มันจะทำให้เงินหมุนเวียน”
แนวทาง นิวนอร์มอล นิวสวนนงนุช
แม้จะปิดให้บริการชั่วคราวมา 2 เดือน แต่ทางสวนนงนุชก็ใช้ระยะเวลาดังกล่าว เพื่อเตรียมการตามแนวทาง นิวนอร์มอล นิวสวนนงนุช หรือ New Normal New Nongnooch Garden
ซึ่งนอกจากจะมีมาตรการที่สอดคล้องกับการท่องเที่ยวในวิถีนิวนอร์มอลแล้ว ยังมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย
“พนักงานของเรา ส่วนใหญ่จะพักอยู่ในสวน เราก็ใช้ช่วงเวลานี้ พัฒนาสวนนงนุช ผมคิดอย่างนี้ครับ สวนนงนุชปิดไป 2 เดือน เมื่อเปิดมาใหม่ ก็ต้องเป็นสวนนงนุชที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เป็นนิวนอร์มอล นิวสวนนงนุช
“ตอนนี้ที่ได้สร้างไปก็เช่น ประติมากรรมภาพวาด้วยหิน คือการนำเอาหินกรวดแม่น้ำ มาทำเป็นรูปภาพ ตามกำเพงต่างๆ ซึ่งเป็นความแปลกใหม่ที่อาจเรียกว่า แห่งแรกเลยก็ว่าได้
“และมีการนำรูปปั้นโขลงช้างขนาดใหญ่ 53 เชือก มาวางไว้บนทางเข้าหุบเขา ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
“รวมถึงมีการสร้างเนิร์สเซอรี่ต้นไม้ต่างๆ ตอนนี้ที่เสร็จเรียบร้อยแล้วคือ เนิร์สเซอรี่สวนกระบองเพชร ที่รถชมวิวสามารถแล่นเข้าไปข้างในได้เลย
“และที่สวนลอยฟ้า เราได้เพิ่ม 7 สิ่งศักดิ์สิทธิ์จากหลายประเทศ อย่างเช่น เจ้าแม่กวนอิม พระยูไล พระสังกัจจายน์ จากประเทศจีน พระพิฆเนศ พระพุทธเมตตา จากอินเดีย พระพุทธเจ้าภูฏาน และพระทงอิลแดบูล จากเกาหลีใต้ รวมทั้งพระ 9 วัด และพระประจำวันเกิด (ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว)
“ผมคิดว่า ไทยเที่ยวไทย ต้องมีแม่เหล็กที่ดีจริงๆ เขาถึงออกมาเที่ยวกัน สวนนงนุชก็เตรียมตัวที่จะเป็นอย่างนั้นน่ะครับ
“ช่วง 2 เดือนที่สวนนงนุชปิดชั่วคราว เราได้วางแผนไว้ตั้งแต่ต้น เรียกว่าผมฉวยโอกาสแล้วกัน ในช่วงโควิด-19 พนักงานทุกคนก็ช่วยกันทำงาน เหมือนอยู่ในบ้าน ขนาดพ่อครัวยังต้องมาช่วยกันเปลี่ยนต้นไม้
"เราก็ทำกันอย่างเต็มที่ จึงอยากให้ทุกคนมาดู เพราะว่าสวนนงนุชได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสวนที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ที่ประเทศไทยเรานี่แหละครับ”
ไทยเที่ยวไทย
จากสถานการณ์โควิด-19 แม้ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ผ่อนคลายไปในทางดี แต่หลายประเทศยังอยู่ในระดับย่ำแย่ และมีแนวโน้มว่า โลกอาจอยู่กับโรคนี้ไปอีกระยะ จนกว่าจะมีการผลิตวัคซีนป้องกันสำเร็จ
ซึ่งจาการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้สวนนงนุชในยุคนิวนอร์มอล เน้นไปที่กลยุทธ์การท่องเที่ยวของคนภายในประเทศ
“เราเน้นแนวทางไปตามนโยบายไทยเที่ยวไทย การจัดกิจกรรม หรืออะไรต่างๆ เมื่อรัฐบาลปลดล็อกแล้ว
“เพราะว่าเงินตราจากต่างประเทศเนี่ย ผมมองไม่เห็น เร็วที่สุดปีหนึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่า ต้องรอให้มียาออกมารักษา ให้ต่างประเทศเขาฟื้นขึ้นมาเป็นปกติก่อน
“แนวคิดของผมในสถานการณ์อย่างนี้ก็คือ ทำให้เราอยู่ได้ ทำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยที่สุด”
สร้างแมนเมด ให้เป็นแลนด์มาร์ก
อีกจุดเด่นของสวนนงนุช นั่นก็คือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ อลังการน่าตื่นตาตื่นใจ ที่มีการสร้างสรรค์ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดตามความต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก
“สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เมื่อก่อนนี้มี 2 ประเภท ก็คือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ กับสถานที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“แต่ตอนนี้ทั้งโลกเปลี่ยนหมดแล้ว ต้องเป็นแมนเมด ( Man Made : สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น) จะเห็นได้ว่าสวนนงนุช เราสร้างแมนเมดมากมายเหลือเกิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาแล้วและอยากกลับมาอีก เพราะเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อันนี้เป็นแนวทางที่เราได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องครับ
“สิ่งที่เราต้องทำ อย่างที่ผมบอกว่า ก็จะมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เปลี่ยนตามที่นักท่องเที่ยวต้องการ นักท่องเที่ยวเป็นผู้กำหนดเลยว่า สวนนงนุชควรจะเป็นอะไร
“โดยที่ผ่านมา เรานำคำติชมของนักท่องเที่ยวมาปรับปรุงตามที่เขาต้องการ ไม่ใช่ตามที่ผมอยากจะให้เขามาดู เราจะต้องตามเทรนด์ของยุคสมัยตลอดเวลา
“และสวนนงนุชก็โชคดีที่ได้กลุ่มที่สำคัญที่สุด คือ เด็กๆ เด็กเนี่ยมาเที่ยวจนล้น เพราะอยากมาสัมผัสไดโนเสาร์ ได้เรียนรู้ธรรมชาติ เหลือกลุ่มเดียวที่ผมยังต้องหนื่อย นั่นก็คือ กลุ่มวัยรุ่น”
การท่องเที่ยว ในโลกยุคหลังโควิด-19
แน่นอนว่า การปรับเปลี่ยนต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวของสวนนงนุช สามารถยืนหยัดได้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 เป็นสิ่งเร่งด่วนและสำคัญที่สุดในเวลานี้
แต่หลังจากสถานการณ์ทั่วโลกคลี่คลาย แนวทางในการดำเนินการต่างๆ ก็จะปรับเปลี่ยนไปอีก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
ซึ่งสุดท้ายนี้ คุณกัมพลได้ให้แนวคิดที่น่าสนใจ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ในโลกยุคหลังโควิด-19 ที่ต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ และเอกชน
“ประเทศไทย แหล่งท่องเที่ยวหลักมีอยู่ไม่กี่แห่ง อันดับต้นๆ ก็เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ กรุงเทพฯ พัทยา สมุย ฯลฯ แต่ถ้ารัฐบาลสร้างแมนเมดเข้าไปในแต่ละที่ ก็จะทำให้สถานที่ต่างๆ ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
“ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ ที่สร้างการ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) ขึ้นมา ลงทุนไป 2 หมื่นกว่าล้าน เพื่อดึงนักท่องเที่ยว เแล้วทำไมเราไม่ทำบ้างล่ะครับ ?
“หรืออย่างประเทศจีน ก็สร้างเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใครไปหูหนาน ก็ต้องไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่นั่น
“ประเทศไทยได้เปรียบทุกประเทศ เพราะว่าเราเป็นประเทศที่คนอยากมามากที่สุด ดังนั้นเราจะทำอย่างไร เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความสุข ให้เขารู้สึกพึงพอใจ
“สิ่งพวกนี้ เราทำได้ง่ายๆ เลย แล้วเราเอาชนะเพื่อนบ้านได้ง่ายๆ ด้วย ดังนั้นเราต้องมองในมุมนี้ให้มากที่สุด เพราะนี่คืออนาคตของการท่องเที่ยวของประเทศไทย”