"อัจฉริยะ" ลั่นไม่มีเจรจาเดินหน้าสอบภาษี "ประจักษ์ชัย" - "ลำไย" [คลิป]

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีของนายประจักษ์ชัย ไหทองคำ และ ภรรยา พร้อมด้วย นางสาวลำไย ไหทองคำ ศิลปินนักร้องชื่อดัง หลังตรวจสอบพบว่ารายได้ของทั้งหมด มีจำนวนกว่า100ล้านบาท

โดยนายอัจฉริยะเปิดเผยว่า วันนี้ ได้ยื่นหนังสือให้อธิบดีกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีของ นายประจักษ์ชัย ภรรยา และนายสาวลำไย รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่ตรวจการเสียภาษีของบุคคลกลุ่มนี้ ทั้งภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล ย้อนหลังตั้งแต่ปี2559-2561 หลังตรวจสอบพบว่า บริษัทไหทองคำ เรคคอร์ดไม่ได้มีการจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งแต่แรก พึ่งมีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในวันที่ 30 มกราคม 2561 ซึ่งมีภรรยาเป็นเจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งพบว่าทั้ง3ราย มีรายได้เกิน1ล้าน8แสนบาทต่อปี ไม่เคยมีการเสียภาษี ทำผิด ในเรื่องของการเลี่ยงภาษี  ซึ่งกฎหมายสรรพากรระบุไว้ว่าบุคคลที่มีรายได้เกิน1ล้าน 8แสนบาท ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

ทั้งนี้นายประจักษ์ชัยไม่จำเป็นต้องออกมาชี้แจงอะไร ตนเองเองมีสิทธิ์ร้องเรียนได้อยู่แล้ว เพราะเรื่องดังกล่าว เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ที่มีทั้งความผิดทางแพ่งและอาญา ส่วนในวันพรุ่งนี้ตนเองจะเดินทางไปร้องเรียน ปปง.ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน กรณีที่บุคคลหลีกเลี่ยงภาษีมากกว่า10ล้านขึ้นไป ก็จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน

โดยในช่วงบ่ายวันนี้ จะยื่นฟ้องนายประจักษ์ชัย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กในกรณีที่นำภาพน้องอามตอนเด็กไปเผยแพร่ทำให้คนเข้าใจผิด พร้อมเรียกค่าละเมิดจำนวน 5ล้านบาท

ส่วนการเจรจาตกลงกันก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะได้ข้อยุติแล้วนั้น เป็นการเจรจาโดยมีพระผู้ใหญ่ และนายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งเป็นตัวกลาง เมื่อวันที่28ตุลาคม ขณะนั้น ฝ่ายนายประจักษ์ชัยยินดีจะฉีกสัญญาเก่าทิ้ง และอยากยุติปัญหาที่เกิดขึ้น โดยฝ่ายนายประจักษ์ชัย เป็นฝ่ายร่างสัญญาใหม่ขึ้นมาเอง พอใจกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีการยืนยันว่าจะสามารถยุติเรื่องได้ และตามนัดหมายเดิมวันนี้จะมีการแถลงข่าวร่วมกัน แต่ที่มีการไปฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาเรียกค่าเสัยหาย21ล้าน ตนจึงถามกลับไปยังผู้ใหญ่ที่เป็นตัวกลางเจรจา พบว่าก็ไม่สามารถตอบได้

พร้อมถามย้ำถึงนายประจักษ์ชัย อีกว่าการฟ้องเรียกค่าเสียหายกับอามถึง21ล้านใช้ตรรกะอะไร เพราะให้ค่าจ้างกับอาทเพียงวันละ5000บาท-10,000บาท ชี้เป็นการเอาเปรียบ และเป็นสัญญาทาส  ส่วนเรื่องที่ทนายของนายประจักษ์ชัยไปยื่นต่อศาลนั้น ขณะนี้ ศาลยังไม่มีการประทับฟ้องเรื่อง เพราะต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน รวมถึงเรื่องที่ตนเองจะไปยื่นวันนี้ด้วยเช่นกัน

พร้อมยืนยันอีกว่าหลังจากนี้จะไม่มีการเจรจาอะไรอีก หลังจากนี้จะเดินทางหน้าดำเนินการตามกฎหมาย ที้งอาญา และแพ่ง และวันพรุ่งนี้ฝากติดตามตอนเที่ยงการยึดอายัติทรัพย์สินของนายประจักษ์ชัย และไหทองคำแรคคอต

อย่างไรก็ตามการร้องเพลงอามยังสามารถร้องเพลงได้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจการจับกุมแน่นอน และส่วนตัวไม่แค้นที่ มีการเจรจากันแล้วแต่อีกกลับไปยื่นฟ้อง แต่ต้องไปถามบุคคลที่เป็นตัวแทนเจรจา ทั้งพระผู้ใหญ่ และนักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่