อุ๊บ วิริยะ รับปั้น ลุงพล เพราะต้องการโหนกระแส เผยเตรียมเป็นผู้จัดการแบบเต็มตัว

ก่อนหน้านี้ผู้จัดการดาราชื่อดัง อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ ได้ออกมาประกาศจะสร้างเรื่องราวคดีของน้องชมพู่เป็นภาพยนตร์ กกกอก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ตลอดจนจากดาราที่ได้รับการทาบทาม ต่างปฏิเสธขอไม่ร่วมแสดงด้วยจนต้องพับโปรเจ็กต์ดังกล่าวลง

ล่าสุดเรื่องราวของคนใกล้ตัว น้องชมพู่ ก็กลายเป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์อีกครั้ง เมื่อ ลุงพล กลายเป็นศิลปินออกซิงเกิ้ลร่วมกับนักร้องดัง จินตรา พูนลาภ ล่าสุดในงาน ​Grand​ Fianl Top​ Model Thailand​ 2020 ทางด้าน อุ๊บ วิริยะ ที่ออกตัวว่าจะปั้นลุงพลเป็นดาราและเจอกระแสข่าวว่าโหนลุงพลเจ้าตัวยอมรับว่าตนเองโหนจริง และกำลังจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวอีกด้วย

"ยอมรับว่าโหนจริง พี่โหนจริง แต่พูดจริงและทำจริงแล้วลงพื้นที่จริงและก็ใช้เงินตัวเอง (หัวเราะ) ก็ไม่ได้อะไร แต่มันได้ความสุขใจเพราะว่าการที่เราจะช่วยใครซักคนจะต้องศึกษาต้องดู เพราะว่าเคสนี้พอพี่เข้าไปในแต่ละเคสทุกคนแฮปปี้ เพราะว่าอย่างน้อยเราเป็นคนที่มีพื้นที่ในวงการบันเทิง มีชื่อเสียงแล้วภาพที่คนเห็นก็คือพี่ช่วยหมาช่วยแมวมานาน เวลลามีคนมาด่าพี่ แอนตี้พี่ก็จะมีคนมาไฟล์ทมีคนมาบอกว่าเขาทำมานานเขาทำมาจริงๆ คนด่าพี่ 20 คนชมพี่ 80 ก็ถือว่าสอบผ่าน"

กลัวทัวร์ลงตัวเองบ้างไหม?

"จริงๆ ทัวร์มันก็ลงตั้งนานล่ะ มันนานาจิตตัง เขาอยากจะด่าก็ด่าเพราะว่าสิ่งที่เขาทำมันทำด้วยใจ พี่ไปช่วยทั้งสองฝ่ายเลยนะเวลาไปกกกอกพี่ก็ไปเยี่ยมแม่น้องชมพู่ก่อนแล้วมาหาลุงพล พี่ไปสามครั้งแล้ว"

คิดยังไงกับการนำลุงพลมาเป็นดารา ขณะที่สังคมเห็นต่างว่าไม่สมควร?

"คือตอนแรกลุงพลแย่เลยนะ ถูกกล่าวหาถูกหาว่าเป็นคนร้ายจุดนี้เองที่ทำให้เกิดการสงสารคนก็เลยมุ่งประเด็นไปคือคนไทยขี้ใจอ่อนและสิ่งต่างๆ เขาให้ด้วยความปราถนาดีลุงพลไม่ได้ขอร้องพี่ว่าเขาให้ก็รับมันเป็นการแสดงจิตใจที่ดีต่อกัน"

"แต่พี่ก็สอนลุงพล ลุงพลต้องทำงานนะพี่ไม่ให้เงินลุงพลฟรี พี่จะหางานให้ อีกอย่างพี่ว่ามันเป็นโอกาสถ้าไม่ฉวยตอนนี้ก็ไม่รู้จะเมื่อไหร่ละก็เขาต้องกินต้องใช้เพราะว่าตอนนี้เขาไม่ได้ทำงานมา 3- 4 เดือนแล้วก็ต้องอยู่เพื่อปากเพื่อท้องมันก็ไม่ผิดตรงไหน

"ไม่ได้ไปทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย มันก็สามารถทำได้เพราะตรงนี้โอกาสมันอยู่กับเราไม่นานและคิดว่าถ้าเขาเข้าวงการบันเทิงจะอยู่ได้นานไหม มันเป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตตรงนี้ เราหากินด้วยตัวเราไม่ได้ขอใครกินก็บอกเขาอย่างนี้"

ตั้งใจปั้นลุงพลเต็มตัว?

"จริงๆ เขามีความสามารถนะ พี่ว่าถ้าได้อะไรที่มันตรงกับช่องทางคาแร็คเตอร์ของเขามันก็สามารถที่จะทำได้ อาจจะเป็นเซเลปเพราะว่าเดี๋ยวนี้คนเรามีเพลงเดียวหากินได้สิบปี"

เตรียมตัวเป็นผู้จัดการลุงพล?

"ก็ไม่ได้คิดเองเออเอง ดูแล้วตัวเองเหมาะสมที่สุดเพราะว่าด้วยประสบการณ์ในวงการบันเทิง ด้วยวัย ศักยภาพหลายๆ อย่าง สงสารแกกลัวแกถูกหลอกบางทีเรื่องเงินเรื่องทอง พี่อุ๊บเป็นผู้จัดการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายไม่หักเปอร์เซ็นต์เลย"

"ตอนนี้มีงานให้แก 7-8 งาน พี่อุ๊บบอกแกว่าไม่ใช่เป็นการฉวยโอกาส แต่มันเป็นโอกาส โอกาสมาแล้ว ถ้าไม่ฉวยก็จะเสียดาย ต่อไปเดี๋ยวมีคดีใหม่มาคนก็ไปสนใจลุงพลคนก็จะลืมต่อไปจะกลายเป็นหมาหัวเน่า มันเป็นวัฏจักรพี่อยู่จรงนี้มานาน พี่ก็สอนเขา สอนทุกสิ่งทุกอย่าง การวางตัว การใช้ชีวิตในวงการบันเทิง จากที่เราอยู่มาสี่สิบปีก็สงสารคนๆ นึงนะฮะ"