ใกล้ถึงวันเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคมแล้ว แต่ละพรรคต่างก็งัดจุดแข็งของตัวเองออกมาชูโรงในนโยบายหาเสียงอย่างเต็มที่ เราจะพามารู้จักกับหัวหน้าพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบัน นายนาจิบ ราซัค และ คู่แข่งคนสำคัญ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัดกัน
พรรคอัมโนเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซียและเป็นสมาชิกก่อตั้งแนวร่วมรัฐบาลบาริซาน นาซิออนนัล ซึ่งมีอำนาจครอบงำการเมืองมาเลเซียตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1957 โดยผู้นำพรรคอัมโน ก็คือ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบันวัย 64 ปี นายนาจิบ ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในปี 2009 ซึ่งหากเขาชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เขาจะครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3
การเลือกตั้งครั้งนี้ นายนาจิบประกาศตั้งเป้าให้มาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และได้เชื้อเชิญชาวมาเลเซียทุกคนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบาริซาน นาซิออนนัล เพื่อทำให้มาเลเซียยิ่งใหญ่ด้วยตามสโลแกน ‘Make Malaysia Great’ นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ หากบาริซาน นาซิออนนัล ชนะการเลือกตั้งและจะขยายสิทธิการลาคลอดจาก 60 วันเป็น 90 วันด้วย รวมถึงจะขยายการประกันสำหรับแรงงานทั้งหมด 14 ล้านคนทั่วประเทศ ครอบคลุมแรงงานที่ประกอบอาชีพอิสระราว 2.5 ล้านคน เช่น คนขับรถแท็กซี่, ชาวนาและชาวประมง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายนาจิบเผชิญกระแสกดดันทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง หลังเขาถูกกล่าวหาว่าทุจริตกองทุนเพื่อการพัฒนามาเลเซีย หรือ 1MDB มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านคู่แข่งคนสำคัญของนายนาจิบ คือ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 92 ปี นายมหาเธร์เคยดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมาเป็นระยะเวลานานถึง 22 ปี ก่อนที่จะเกษียณตัวเองไปในปี 2003 โดยเมื่อปีที่ผ่านมา เขาประกาศตัดขาดจากพรรคอัมโนและก่อตั้งพรรคพาร์ทิ พริบูมิ เบอร์ซาตู มาเลเชีย (Parti Pribumi Bersatu Malaysia) หรือ พีพีบีเอ็ม ก่อนนำพรรคเข้าร่วมกับพันธมิตรฝ่ายค้าน ภายใต้ชื่อ แพค ออฟ โฮป หรือปากาตัน ฮาราปัน แน่นอนว่ามหาเธร์ถูกเสนอชื่อลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในนามแนวร่วมฝ่ายค้าน
นายมหาเธร์ ปราศรัยว่า พันธมิตรพรรคฝ่ายค้านของเขาจะนำวันที่รุ่งโรจน์กลับคืนมาสู่ชาวมาเลเซีย โดยเฉพาะประชาชนบนเกาะลังกาวี บ้านเกิดของเขา พร้อมทั้งระบุว่า ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาคือการเลือกนายนาจิบ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเขากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไขความผิดพลาดนี้
บรรดาฝ่ายค้านหวังว่ามหาเธร์จะดึงคะแนนเสียงในชนบท โดยเฉพาะชุมชนของชาวมุสลิมมาเลย์ ซึ่งสนับสนุนแนวร่วมรัฐบาลมาโดยตลอด แต่เริ่มไม่พอใจกับปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นและเรื่องอื้อฉาวทางการเงินของนายนาจิบ
สำหรับมหาเธร์นั้นเขามีเชื้อสายมาเลย์ ทำให้สามารถดึงฐานเสียงชาวมาเลย์ที่นิยมในตัวเขามาได้ ในขณะที่ฝ่ายค้านเดิมนั้นเป็นฐานเสียงสำคัญของผู้คนในเมืองใหญ่ และชนกลุ่มน้อยโดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อสายจีน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า แนวร่วมฝ่ายค้านไม่น่าจะเอาชนะพรรคร่วมรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ แต่หากเป็นจริงขึ้นมา มหาเธร์ก็จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดในโลก