เจ้าหน้าที่ในอิตาลี เร่งอพยพชาวบ้านในเมืองเจนัว หลังเกิดเหตุสะพานมอเตอร์เวย์ชื่อว่า "โมรันดี" พังถล่งลงมา ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 35 คน หวั่นเกิดเหตุถล่มซ้ำ
ภาพวินาทีสุดช็อก ขณะที่เสาต่อม่อเชื่อมคานด้านบนสุด ของสะพานยกระดับมอเตอร์เวย์ เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลขสาย เอ10 ชื่อว่าสะพานโมรันดี ช่วงข้ามแม่น้ำโปลซีวีร่า ในเมืองเจนัว ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี พังถล่งลงมา เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ส่งผลให้รถยนต์หลายสิบคันที่อยู่บนสะพานดังกล่าว ในจำนวนนั้นเป็นรถบรรทุกประมาณ 3 คัน ร่วงหล่นลงมาจากความสูงประมาณ 100 เมตร ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งระหว่างเกิดเหตุ บรรยากาศในเจนัว ถูกปกคลุมด้วยเมฆฝน และมีฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตไว้ที่ 35 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่นของอิตาลี
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 200 คน ต้องช่วยกันค้นหาผู้รอดชีวิต ที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง เบื้องต้นพบผู้รอดชีวิตแล้ว 4 คน ขณะที่นายแองเจโล บอร์เรลลี หัวหน้าสำนักงานป้องกันพลเรือน คาดว่าสาเหตุเกิดจากหนึ่งในหอรับน้ำหนักสะพาน ทรุดตัวและพังถล่มลงมา ด้านสื่อท้องถิ่นอย่าง Sky TG24 รายงานว่า มีคำสั่งอพยพประชาชน ที่มีบ้านเรือนอยู่ใต้สะพาน เนื่องจากมีความเสี่ยงอาจเกิดการถล่มซ้ำอีก
ทั้งนี้ นายมัตตีโอ ซัลวีนี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน ระบุว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่า ประเทศต้องให้ความสำคัญเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน มากกว่าการจำกัดการใช้งบประมาณ ซึ่งคำพูดดังกล่าว สะท้อนถึงนโยบายของอิตาลี ที่มีการลดงบประมาณโครงสร้างพื้นฐาน ที่เหลือไม่ถึง 6 พันล้านยูโร มาตั้งแต่ปี 2552 หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สำหรับสะพานโมรันดี ก่อสร้างขึ้นช่วงปี 2510 ก่อนจะมีการปรับโครงสร้างใหม่เมื่อปี 2559 และกำลังอยู่ระหว่างการเสริมความมั่นคงของรากฐานสะพาน แต่มาเกิดเหตุสลดเสียก่อน