ปารีสประท้วงเดือด ม็อบเสื้อกั๊กเหลือง จุดไฟเผาร้านค้า กลายเป็นเหตุความรุนแรง

การชุมนุมประท้วง เสื้อกั๊กเหลือ ในฝรั่งเศสที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อ 4 เดือน ที่ผ่านมา ซึ่งยังคงดำเนินต่อไปในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยการชุมนุมเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.62)ในกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศ ได้กลับมาบานปลายกลายเป็นเหตุความรุนแรงอีกครั้ง เมื่อผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาร้านขายกระเป๋าหรูและทำลายร้านอาหารบนถนนฌองเซลิเซ่ รวมถึงรถยนต์และธนาคารที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นดังกล่าว อีกทั้งยังมีผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ตำรวจด้วย ทำให้ตำรวจปราบจลาจลต้องยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาเข้าใส่เพื่อสลายการชุมนุม และมีการจับกุมผู้ชุมนุมไปมากกว่า 120 คน

ด้านหน่วยดับเพลิงได้ทำการอพยพผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารที่ถูกจุดไฟเผา ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุไฟไหม้ 11 คน ในจำนวนนี้เป็นนักดับเพลิง 2 นาย

รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสกล่าวว่า ได้ส่งกำลังตำรวจ 1,400 นายไปดูแลความสงบ พร้อมสั่งการให้ตำรวจลงมือได้ทันทีตามความเหมาะสมเพื่อรับมือกับการกระทำที่เกินกว่าเหตุ

ตำรวจฝรั่งเศสกล่าวว่า มีผู้ชุมนุมเข้าร่วมการประท้วงในกรุงปารีสเมื่อวานนี้ราว 10,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากสัปดาห์ก่อนๆ ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมทั่วประเทศเมื่อวานนี้อยู่ที่ราว 32,300 คน

ที่ผ่านมาประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ได้พยายามเสนอเงื่อนไขต่อรองกับกลุ่มผู้ประท้วง รวมถึงการเสนอขึ้นค่าแรงให้แก่ชนชั้นแรงงานและเงินบำนาณของผู้เกษียณอายุ แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้ประธานาธิบดีมาครง ต้องเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อรับฟังปัญหาจากส่วนการปกครองท้องถิ่นและประชาชน