14 ม.ค. 2563 เวลา 3:31 น.
ไต้หวันไม่มีนโยบายเลือกตั้งล่วงหน้า หรือเลือกตั้งทางไปรษณีย์ ใครที่ต้องการใช้สิทธิ ต้องมาที่ไต้หวันในวันเลือกตั้งเท่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้นับเป็นจังหวะดีกับ ไช่ อินเหวิน เพราะเหตุการณ์ในฮ่องกงทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่า นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีนไม่เวิร์กเสียแล้ว
หลังชัยชนะของ ไช่ อินเหวิน กระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับไต้หวัน ความจริงพื้นฐานจะไม่เปลี่ยน มีจีนเพียงหนึ่งเดียวในโลก และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน” ขณะที่หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีย์ของรัฐบาลจีนระบุว่า “นี่เป็นโอกาสของไช่ที่จะแก้ไข ลดการเผชิญหน้าแบบที่เธอทำกับปักกิ่งที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่แต่จะลดความตึงเครียดระหว่างสองฝั่งของช่องแคบที่รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบสองสามปีที่ผ่านมา แต่ยังเป็นการป้องกันเกาะไต้หวันถูกสหรัฐฯใช้เป็นตัวประกันในเกม”
ด้านหนังสือพิมพ์โกลโบลไทมส์ของจีนกลับมีท่าทีที่แข็งกร้าวยิ่งกว่า ระบุว่าถึงเวลาที่จีนต้องเริ่มแผน “ปราบปรามการกระทำที่ปลุกปั่นของไช่ ที่รวมถึงการกดดันทางทหาร”
แต่ไม่ว่าปฏิกิริยาของจีนจะเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ แนวความคิดที่ว่าผู้มีสิทธิออกเสียงชาวไต้หวันจะเลือกที่จะรวมชาติกับจีนที่ปกครองด้วยพรรคคอมมิวนิสต์นั้น ไม่มีทางเกิดขึ้น
ความเป็นจริง ไต้หวันก็ไม่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน เกาะไต้หวันเคยเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นช่วงเวลาส่วนใหญ่ของศตวรรษที่ 20
ปี 1949 รัฐบาลก๊กมินตั๋งหนีจากจีนแผ่นดินใหญ่มาเกาะไต้หวัน หลังแพ้สงครามการเมืองแก่พรรคคอมมิวนิสต์ ก๊กมินตั๋งได้ก่อตั้งเขตปกครองสาธารณรัฐจีน (Republic of China หรือ ROC) โดยมีเมืองหลวงคือไทเป และปกครองไต้หวันด้วยรัฐบาลพรรคเดียวอยู่นานหลายสิบปี
บทวิเคราะห์ของซีเอ็นเอ็นระบุว่า แรงสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวัน ถูกขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกเป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลปักกิ่งที่มีขึ้นหลังปี 1949 และความต้องการที่จะปกป้องเสรีภาพประชาธิปไตยของไต้หวันที่ได้มาอย่างยากลำบาก ประกอบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของไต้หวันที่ได้รับการปกครองแยกจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตลอด ตั้งแต่ยุคอาณานิคม และยุคที่เป็นอาณาเขตอิสระ ส่วนชนพื้นเมืองไต้หวันแท้ๆ ที่มีอยู่ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ถ้าย้อนกลับไปราวหนึ่งหมื่นปี พวกเขาก็กลับมีความผูกพันกับชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าจีน
แต่แม้ว่าเจตนารมย์ของคนส่วนใหญ่บนเกาะไต้หวันจะชัดเจนกับความต้องการที่จะไม่อยู่ภายใต้การปกครองของจีน ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา เผยว่ามีชาวไต้หวันพียง 10 เปร์เซ็นต์เท่านั้นที่ยังสนับสนุนการรวมชาติ แต่นั่นก็ไม่เคยทำให้จีนหยุดผลักดันการรวมชาติ มองการเป็นอิสระของไต้หวันว่าเป็น “ธุระที่ยังทำไม่สำเร็จ” จากยุคสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามกลางเมืองของจีน การดึงไต้หวันหลับมาเป็นส่วนสำคัญของการ “ฟื้นฟูความยิ่งใหญ่” พอๆ กับการควบคุมความเป็นไปบนเกาะฮ่องกง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ชัยชนะของ ไช่ อินเหวิน ที่เป็นการแสดงการปฏิเสธรัฐบาลปักกิ่งอย่างชัดเจน กับความต้องการที่บีบคั้นและขู่เข็ญการรวมชาติ
บทวิเคราะห์ระบุว่า ปักกิ่งควรรับบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างแรก ความเย้ายวนทางเศรษฐกิจ, ปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนนั้นไม่พอที่จะเอาชนะใจคนไต้หวัน ทั้งฮ่องกงและไต้หวันแสดงให้เห็นว่า สังคมประชาธิปไตยนั้นยากที่จะควบคุมด้วยความคิดและวิธีแบบเผด็จการ ปักกิ่งต้องคิดกลยุทธใหม่ ถ้าอยากจะดึงไต้หวันให้เข้ามาใกล้ขึ้น