บาห์เรน พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 รายแรก ยูเออี เตือนคนในชาติ งดการเดินทางไปไทย

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมานามา ได้เผยแพร่ เรื่อง สถานการณ์การระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)

สำหรับคนไทยในบาห์เรน

วันนี้ (24 ก.พ. 2563) กระทรวงสาธารณสุขบาห์เรนได้ออกประกาศพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (covid-19) รายแรกในประเทศ ซึ่งเป็นชาวบาห์เรนที่พึ่งเดินทางกลับจากประเทศอิหร่าน โดยกำลังเข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์อิบราฮิม คาลิล คานู (Ebrahim Khalil Kanoo) ที่เป็นสถานที่คัดแยกตัวผู้ที่ติดเชื้อที่รัฐบาลบาห์เรนจัดเตรียมไว้

สถานเอกอัครราชทูตฯ ย้ำข้อแนะนำในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาด ดังนี้

2.1 หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้สะอาด หลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสหน้า ตา จมูก ปาก

2.2 กินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง

2.3 หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน ที่มีคนจำนวนมาก ในสถานที่แออัด หากจำเป็นต้องไป ควรสวมหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก โดยสวมใส่ให้ถูกวิธี

2.4 สำหรับผู้ที่มีอาการไอ จาม มีไข้ หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือสงสัยว่าบุคคลใกล้ชิดจะติดเชื้อดังกล่าว ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด หรือโทรศัพท์ไปที่เบอร์ 444 ซึ่งเป็นสายด่วนของรัฐบาลบาห์เรนเพื่อขอเข้ารับการรักษษพยาบาลที่เหมาะสมทัน

2.5 สำหรับผู้ที่มีถิ่นพำนักในบาห์เรน (รวมถึงผู้ที่มีวีซ่านักลงทุน วีซ่าทำงาน วีซ่าครอบครัว และ Flexi Work Permit ไม่รวมวีซ่าท่องเทียว)ที่เคยเดินทางไปประเทศไทย อิหร่าน สิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลีใต้ภายใน 14 วันก่อนหน้า โปรดให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัดกับมาตรการต่างๆ ของทางการบาห์เรน รวมทั้ง การกรอกข้อมูล ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ การตรวจร่างกาย และการกักตัวเองอยู่ในที่พักอาศัย แยกต่างหากจากผู้อื่น เป็นเวลา 14 วัน

ขณะที่ Royal Thai Embassy Abu Dhabi ประกาศเตือนคนชาติ ยูเออี ให้งดเว้นการเดินทางไป ประเทศไทย และ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ความว่า กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ประกาศเตือนคนชาติยูเออีให้งดเว้นการเดินทางไปประเทศไทยและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยการประกาศดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอนาคต

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวเป็นเพียงการเตือนเฉพาะชาวยูเออี โดยชาวต่างชาติในยูเออี รวมถึงคนไทย ยังคงเดินทางออกจากยูเออีได้ตามปกติ และคนไทยยังสามารถเดินทางเข้ามายูเออีได้ตามปกติ โดยไม่มีการกักตัวหรือระงับการเดินทางแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี จะติดตามความคืบหน้าและประชาสัมพันธ์ให้คนไทยทราบต่อไป และขอให้คนไทยที่มีกำหนดเดินทางในระยะนี้ติดตามข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี และทางการยูเออีอย่างต่อเนื่องด้วย