ผู้ป่วยโควิดในจีน ปลูกถ่ายปอดสำเร็จรายแรก

ชายสกุล ชุ่ย รายนี้เป็นผู้ป่วยวัย 65 ปีติดไวรัสโควิด-19 แพทย์โรงพยาบาลเหรินเหมินของมหาวิทยาลัอู่ฮั่น ทำการรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายปอดถึง 2 ครั้ง จนหายดี ปัจจุบันสามารถกลับบ้านได้แล้วเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา

เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย นายหม่าสวีตง เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่าจากบรรดาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 10 รายที่ใช้วิธีการรักษาด้วยการปลูกถ่ายปอด นายชุ่ย เป็นผู้ป่วยรายแรกที่รักษาหายดี และสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

นายหม่า กล่าวต่ออีกว่า ในประเทศจีนมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีการปลูกถ่ายปอด ณ ขณะนี้จำนวน 6 รายส่วนอีก 4 รายรักษาตัวอยู่ใน อิตาลี , สหรัฐฯ , เกาหลี และออสเตรีย ประเทศละ 1 ราย

ทั้งนี้การรักษาในแบบดังกล่าวเกิดจากการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการประชุมหารือทางออนไลน์เพื่อหาแนวทางในการรักษาร่วมกันอีกด้วย

“ผู้คนจากหลากหลายหน่วยงานต่างพยายามอย่างเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วย ซึ่งย้ำมั่นถึงหลักการที่ว่า ชีวิตผู้ป่วยต้องมาก่อน” นายหม่ากล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมระบุว่า นายชุ่ย รายนี้เป็นแรงงานเกษียณ เริ่มมีไข้ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. และถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 7 ก.พ. โดยถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. มีการใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอดมาโดยตลอด อีกทั้งผู้ป่วยรายดังกล่าวมีภาวะพังผืดที่ปอด ทำให้ทางเลือกในการรักษาถูกจำกัด และการปลูกถ่ายปอดเป็นทางเลือกเดียวที่จะทำได้ หลินฮุ่ยซิง ศัลยแพทย์โรคทรวงอกอาวุโส กล่าว

นายชุ่ย ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายปอด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมาและใช้เวลาผ่าตัดกว่า 6 ชั่วโมงหลังจากเกิดภาวะปฏิเสธปอด ติดเชื้ออย่างรุนแรง และดื้อยาหลายชนิด รวมไปถึงการที่ลำไส้ และไตทำงานล้มเหลวซึ่งเป็นภาวะตามมาหลังผ่าตัด นายชุ่ย สามารถประคับประคองตัวเองได้ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. และสามารถนั่งรถเข็นได้ในเดือน ก.ค.

ขณะที่สภาพร่างกายของ นายชุ่ย ถึงแม้จะหายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม แต่ยังมีความต้องการการฟื้นฟูสมรรถนะเพิ่มเติมจากอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงภายหลังการรักษา และนายชุ่ย ยังถือเป็นผู้ป่วยรายสุดท้ายที่ออกจากโรงพยาบาลเหรินเหมินอีกด้วย