svasdssvasds

เปิดพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน 5 อำเภอใน "เชียงใหม่" หลังไฟป่าวิกฤต

เปิดพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน 5 อำเภอใน "เชียงใหม่" หลังไฟป่าวิกฤต

เชียงใหม่ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า รวม 317 หมู่บ้าน ใน 5 อำเภอ พร้อมสั่งการเร่งให้ความช่วยเหลือภายใน 3 เดือน

SHORT CUT

  • สถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในเชียงใหม่ขณะนี้ ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์เกินค่ามาตรฐาน
  • ผู้ว่าฯ เชียงหใม่ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่ารวม 5 อำเภอ
  • ประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ 3 แล้ว เพื่อขอกำลังทหารเข้าไปช่วยเขตป่าอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติมากขึ้น

เชียงใหม่ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า รวม 317 หมู่บ้าน ใน 5 อำเภอ พร้อมสั่งการเร่งให้ความช่วยเหลือภายใน 3 เดือน

จากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและการดำรงชีวิตของประชาชน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่ารวม 5 อำเภอแล้ว ดังนี้

  • อำเภอเชียงดาว 83 หมู่บ้าน  
  • อำเภอแม่แตง 29 หมู่บ้าน  
  • อำเภอไชยปราการ 44 หมู่บ้าน  
  • อำเภอฝาง 85 หมู่บ้าน
  • อำเภอพร้าว 76 หมู่บ้าน

ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยหลังจากมีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า ในพื้นที่ อ.เชียงดาว, แม่แตง,ไชยปราการ,ฝาง และพร้าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน ทำให้การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ โดยใช้กำลังหน่วยปฏิบัติปกติ ร่วมกับกำลังทหารที่มีอยู่ในชุดแรกเริ่มอ่อนล้า และต้องการกำลังสนับสนุนมากกว่าที่เป็นอยู่

 

จ.เชียงใหม่ จึงจำเป็นต้องบริหารสถานการณ์ให้เหมาะสมมากที่สุด ด้วยการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอัคคีภัย ไฟป่า ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเพิ่มการใช้กำลังทหารให้เหมาะสมกับสภาพความรุนแรงของสถานการณ์ และเปิดโอกาสให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสามารถใช้เงินทดรองราชการในส่วนของตัวเองได้ โดยมีระเบียบกระทรวงการคลัง รองรับหลังการประกาศ เพื่อการใช้จ่ายงบประมาณที่ถูกต้องเหมาะสมและเกิดประโยชน์ในทางการบริหารสถานการณ์มากที่สุด

ขณะเดียวกัน จังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ 3 แล้ว เพื่อขอกำลังทหารเข้าไปช่วยเขตป่าอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่สามารถประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ เพราะเป็นภัยที่ไม่มีระเบียบกระทรวงการคลังรองรับการใช้จ่ายงบประมาณ จึงไม่เกิดประโยชน์ในทางการบริหารสถานการณ์ พร้อมกันนี้ เพื่อให้อำเภอและจังหวัดสามารถดูแลประชาชน กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยได้อย่างเต็มที่ จังหวัดจึงได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันหารือถึงวิธีการปฏิบัติแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related