แจ็กเก็ตติดแอร์ เพิ่มความเย็น ประหยัดพลังงาน ชาร์จ 1 ครั้งใช้ได้ 11 ชั่วโมง
ผลกกระทบอย่างหนังของโลกร้อนคือการที่อากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าที่เคย ส่งผลกระทบกับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการใช้ชีวิตนอกบ้านที่ต้องเจอกับอากาศร้อน นี่จึงเป็นไอเดียให้อดีตวิศวกรวัยเกษียณชาวญี่ปุ่น ประดิษฐ์แจ็กเก็ตพัดลมขึ้น
SHORT CUT
- แจ็กเก็ตติดแอร์ช่วยเพิ่มความเย็นสบาย ด้านหลังของเสื้อผ้ามีพัดลมเล็กๆ สองตัวที่ดึงอากาศเข้าไปข้างใน เป่าให้ทั่วร่างกายเพื่อระบายเหงื่อในทันที
- พัดลมในเสื้อแจ็กเก็ตจะเชื่อมต่อกับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- อากาศจะไหลเวียนทั่วทั้งเสื้อแจ็กเก็ตและระบายผ่านปกเสื้อและข้อมือ ทำให้เหงื่อแห้งและทำให้ผู้สวมใส่เย็นลง
ผลกกระทบอย่างหนังของโลกร้อนคือการที่อากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าที่เคย ส่งผลกระทบกับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการใช้ชีวิตนอกบ้านที่ต้องเจอกับอากาศร้อน นี่จึงเป็นไอเดียให้อดีตวิศวกรวัยเกษียณชาวญี่ปุ่น ประดิษฐ์แจ็กเก็ตพัดลมขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อากาศร้อนจัดที่มากขึ้นทุกปีในประเทศญี่ปุ่น เราจะพบเห็นผู้คนสวมใส่เสื้อแจ็กเก็ตติดแอร์เพื่อระบายความร้อน และได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ขณะนี้เทคโนโลยีนี้กำลังรุกเข้าสู่ชุดกีฬาและอุปกรณ์แฟชั่นเช่นกัน
Hiroshi Ichigaya อดีตวิศวกรของ Sony ซึ่งเป็นผู้ประดิษฐ์เสื้อแจ็กเก็ตติดแอร์ ได้แรงบันดาลใจมาจาการเดินทางมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีอากาศร้อนชื้น บวกกับภาวะโลกร้อนทำให้อากาศทั่วโลกร้อนขึ้น
แจ็กเก็ตพัดลมหรือเสื้อผ้าติดเครื่องปรับอากาศปัจจุบันพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนในญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน ช่วยเพิ่มความเย็นสบาย ด้านหลังของเสื้อผ้ามีพัดลมเล็กๆ สองตัวที่ดึงอากาศเข้าไปข้างใน เป่าให้ทั่วร่างกายเพื่อระบายเหงื่อในทันที
Ichigaya Hiroshi ประธานบริษัท Kūchōfuku กล่าวว่า “ในช่วงเวลานั้นผมกำลังสร้างอุปกรณ์สำหรับวัดคุณภาพของภาพจากหลอดแคโทด-เรย์สำหรับโรงงานโทรทัศน์ โดยไปเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อจำหน่าย ประเทศไทยและมาเลเซียกำลังประสบกับการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ที่บูม และสิ่งที่ฉันเห็นทำให้ฉันคิดแบบนั้น ฉันคิดในใจว่าปริมาณพลังงานที่จำเป็นในการทำให้อาคารดังกล่าวเย็นลงนั้นต้องไม่ธรรมดา ฉันสงสัยว่าเป็นไปได้ไหมที่จะประดิษฐ์อุปกรณ์ทำความเย็นที่ไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก”
ที่มา : Nippon / The Guardian / Teipei Times
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
