svasdssvasds

COP30 เริ่มแล้ว ประเทศร่ำรวยรับ 'ใบแจ้งหนี้' เรียกเก็บเงินช่วยโลกร้อน

COP30 เริ่มแล้ว ประเทศร่ำรวยรับ 'ใบแจ้งหนี้' เรียกเก็บเงินช่วยโลกร้อน

การประชุม COP30 เริ่มต้นขึ้นแล้วที่บราซิล โดยประธานการประชุม COP29 ได้ส่ง 'ใบแจ้งหนี้' เตือนประเทศร่ำรวยให้ช่วยเหลือผู้รับผลกระทบจากโลกร้อน

SHORT CUT

  • การประชุม COP30 เริ่มขึ้นที่บราซิล โดยมีการยื่น 'ใบแจ้งหนี้' เชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยรับผิดชอบคำมั่นสัญญาทางการเงินในการช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน
  • การออกใบแจ้งหนี้มีขึ้นเพื่อย้ำเตือนถึงประวัติศาสตร์ที่น่าผิดหวังซึ่งประเทศพัฒนาแล้วไม่เคยส่งมอบเงินทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ตามที่สัญญาไว้ได้อย่างครบถ้วน
  • ใบแจ้งหนี้ระบุเป้าหมายทางการเงินใหม่ที่สำคัญหลายรายการ รวมถึงการเพิ่มเงินทุนเพื่อการปรับตัวเป็นสองเท่า (4 หมื่นล้านดอลลาร์) ภายในปี 2025 และเป้าหมายการเงินบากู (3 แสนล้านดอลลาร์) ภายในปี 2035

การประชุม COP30 เริ่มต้นขึ้นแล้วที่บราซิล โดยประธานการประชุม COP29 ได้ส่ง 'ใบแจ้งหนี้' เตือนประเทศร่ำรวยให้ช่วยเหลือผู้รับผลกระทบจากโลกร้อน

การประชุมสุดยอดว่าด้วยสภาพภูมิอากาศ หรือ "COP30" ได้เปิดฉากขึ้นแล้วในวันจันทร์ ที่ 10 พ.ย. 2025 ที่เมืองเบเลงในป่าอเมซอนของประเทศบราซิล โดยสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ "ร่วมมือกัน" มากกว่าที่จะต่อสู้กันเพื่อเรียกร้องความสำคัญในประเด็นของตนเอง เนื่องจากความพยายามที่จะจำกัดภาวะโลกร้อน กำลังถูกคุกคามจากฉันทามติระหว่างประเทศที่แตกแยก

ประธาน COP29 ยื่น "ใบแจ้งหนี้" ให้ประเทศร่ำรวย

นายมุคตาร์ บาบาเยฟ ประธานการประชุม COP29 ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะประธาน COP ครั้งสุดท้าย โดยเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบของประเทศพัฒนาแล้วในการส่งมอบคำมั่นด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศที่ได้ตกลงไว้ในการประชุมที่กรุงบากู (Baku) ประเทศอาเซอร์ไบจาน ทั้งยังได้ยื่น "ใบแจ้งหนี้" เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเตือนให้ประเทศต่างๆ ระลึกถึงพันธกรณีที่ได้ให้สัญญาไว้ว่า จะสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่เปราะบางต่อวิกฤติสภาพภูมิอากาศอย่างแท้จริง

COP30 เริ่มแล้ว ประเทศร่ำรวยรับ \'ใบแจ้งหนี้\' เรียกเก็บเงินช่วยโลกร้อน

บาบาเยฟ กล่าวว่า “ผมเลือกที่จะนำเสนอใบแจ้งหนี้ต่อประเทศผู้บริจาค เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเรียกร้องอย่างสร้างสรรค์ หลังจากที่โลกต้องเผชิญกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากประวัติศาสตร์ของคำมั่นสัญญาเงินทุน 100 พันล้านดอลลาร์ ที่ยังไม่เคยถูกส่งมอบครบถ้วนจริงๆ”

โดยในใบแจ้งหนี้ดังกล่าว มีรายละเอียดแสดงถึงคำสัญญาที่ผู้บริจาคได้ให้คำมั่นไว้แล้ว รวมถึงหลักสำคัญที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผน ดังนี้

  • การเพิ่มเงินทุนสำหรับการปรับตัวเป็นสองเท่า (Double adaptation finance) มูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบภายในสิ้นปี 2025
  • การเพิ่มกองทุนภูมิอากาศของสหประชาชาติ (UNFCCC) เป็นสามเท่า (Triple the UN climate funds) ให้ได้ 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030
  • เป้าหมายการเงินเบเลง (Baku Finance Goal) มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2035

อย่าสู้กันเอง แต่ต้องสู้กับวิกฤตสภาพอากาศ

ไซมอน สตีลล์ เลขาธิการบริหารด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหประชาชาติ กล่าวกับผู้แทนจากกว่า 190 ประเทศที่เข้าร่วมว่า “ในเวที COP30 นี้ หน้าที่ของพวกคุณไม่ใช่การต่อสู้กันเอง แต่คือการต่อสู้กับวิกฤตสภาพอากาศนี้ร่วมกัน”

เขากล่าวว่า การเจรจาเรื่องสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติที่ผ่านมากว่าสามทศวรรษ ได้ช่วยผลักดันให้แนวโน้มภาวะโลกร้อนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะสิ่งที่ตกลงกันในห้องประชุมเช่นนี้ ได้ถูกนำไปออกกฎหมายในหลายประเทศ แต่เราก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำกันต่อไป

COP30 เริ่มแล้ว ประเทศร่ำรวยรับ \'ใบแจ้งหนี้\' เรียกเก็บเงินช่วยโลกร้อน

ไร้เงาตัวแทน 'สหรัฐฯ'

สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกเลือกที่จะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มักจะกล่าวอ้างถึงความเห็นของเขาอยู่เสมอว่า วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็น 'เรื่องหลอกลวง'

อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซัม และผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโก มิเชลล์ ลูฮาน กริชัม ซึ่งมีนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จะเดินทางมาถึงเบเลงในวันอังคาร

สัญญาณเตือน 'โลกเหลือเวลาไม่มากแล้ว'

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิทยาศาสตร์นานาชาติหลายสิบแห่ง ได้ส่งจดหมายถึงการประชุม COP30 โดยระบุถึงคำเตือนที่เกี่ยวกับการละลายของธารน้ำแข็ง แผ่นน้ำแข็ง และพื้นที่เยือกแข็ง อื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งกำลังก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในอัตราที่น่าตกใจ และย้ำว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์หรือผลประโยชน์ของชาติในระยะสั้น ไม่ควรถูกนำมาบดบังปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นความท้าทายด้านความมั่นคงและเสถียรภาพที่สำคัญที่สุดในยุคสมัยนี้