พลิกเกมพลังงาน CKPower เดินหน้าตลาด RECs สู่เป้าหมายสีเขียว

จากข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ว่า ในปี 2569 ความต้องการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนโดยปริมาณไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ขายให้ภาครัฐคาดว่าจะอยู่ที่ 24,303 GWh ขณะที่ภาคเอกชนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 8% สอดรับกับมาตรการโลกอย่าง CBAM และการเคลื่อนไหวขององค์กรในกลุ่ม RE100

สำหรับ CKPower (CKP)  ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่เน้นการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ได้วางกลยุทธ์อย่างชัดเจนในการเดินหน้าขยายสู่ตลาดใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates - RECs) เพื่อสร้างความยั่งยืนและเพิ่มศักยภาพด้านรายได้ โดย RECs เป็นตราสารทางการตลาดที่ใช้ยืนยันว่าไฟฟ้าจำนวน 1 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) ถูกผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม หรือพลังน้ำ และถูกส่งเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้า ทั้งนี้ RECs จะถูกแยกออกจากไฟฟ้าจริงเชิงกายภาพ และสามารถซื้อขายในตลาดได้

การซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อองค์กรที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 2 จากการใช้ไฟฟ้า โดยการซื้อ RECs ช่วยให้องค์กรสามารถอ้างสิทธิ์ได้ว่าใช้พลังงานสะอาดในปริมาณเทียบเท่ากับจำนวน MWh ที่ซื้อ แม้พลังงานที่ใช้งานจริงจะมาจากโครงข่ายหลัก (grid) ที่มีการผสมผสานเชื้อเพลิงหลายประเภทก็ตาม

นอกจากนี้การซื้อ RECs ยังถือเป็นการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงานหมุนเวียนโดยตรง เนื่องจากเป็นรายได้เสริมที่ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการลงทุนและขยายโครงการพลังงานสะอาดให้กับผู้ผลิตไฟฟ้า

ขณะเดียวกัน CKPower ถือเป็นหนึ่งในผู้นำที่ก้าวเข้าสู่ตลาด RECs การดำเนินงานในธุรกิจนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Partnership for Life หรือ พันธมิตรที่ยั่งยืน ที่มุ่งเสริมความยืดหยุ่นทางธุรกิจและแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในภาคพลังงานหมุนเวียน

ในด้านการสร้างรายได้เสริมและความยั่งยืนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด (BKC) ได้ริเริ่มขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าเข้าระบบซื้อขาย RECs ตั้งแต่ปี 2565 และจนถึงปัจจุบัน (มกราคม 2568) ได้ส่งมอบ RECs แล้วทั้งสิ้น 39,660.46 หน่วย กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับบริษัท แต่ยังตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรที่มุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม

จากการเติบโตของตลาด RECs ในประเทศไทยถือเป็นแรงหนุนสำคัญ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตจาก 11.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ไปสู่ 25.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2032 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 9.7%

สำหรับ CKPower การขยายธุรกิจใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs) ถือเป็นโอกาสสำคัญในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่ม พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งเชื้อเพลิงที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากตลาด Private PPA ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ความต้องการซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากภาคเอกชนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 21% ในปี 2569 เนื่องจากผู้ประกอบการหันมาใช้บริการ Private PPA มากขึ้น ขณะเดียวกัน ต้นทุนการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ก็มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเปิดโอกาสให้ CKPower สามารถสร้างรายได้จากการขายไฟฟ้าและ RECs ควบคู่กัน

การมุ่งเน้นการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และการขับเคลื่อนธุรกิจ RECs อย่างจริงจัง CKPower จึงไม่เพียงแต่เสริมสร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้กับองค์กร แต่ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสนับสนุนให้องค์กรและประเทศบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนในระดับสากลอีกด้วย

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ