ซีพีเอฟ ระบุพบการใช้ข้อมูลประกอบการสื่อสารในเวทีสาธารณะและสื่อโซเชียล ที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง ทั้งภาพและข้อความ สร้างความเข้าใจผิดแก่สังคมกรณีปลาหมอคางดำ กระทบชื่อเสียงองค์กรเสียหาย เตรียมพิจารณาดำเนินการขั้นต่อไป พร้อมเตือนประชาชนอย่าเชื่อ อย่าแชร์
นางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาและในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ได้มีการใช้รูปภาพและข้อมูลประกอบการสื่อสารบนเวทีสาธารณะที่เป็นเท็จ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท โดยมีตัวอย่างภาพเท็จและข้อมูลเท็จบางส่วน ดังนี้
นอกจากรูปภาพที่บิดเบือนบางส่วนที่นำมาแสดงในวันนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อความบิดเบือนอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินการทางกฏหมายต่อไป โดยผู้ที่ให้รูปและข้อมูลที่เป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริง ควรต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ ร่วมกับผู้ที่ใช้ข้อมูลและรูปภาพดังกล่าวในการสื่อสารในเวทีสาธารณะต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทเห็นด้วยว่า ควรมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางสังคมเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เนื่องจากมีหลายบริษัทที่ซีพีเอฟไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กลับมีกิจกรรมค้าขายปลาชนิดนี้ในช่วงที่ผ่านมา จึงขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมและควรมีการสอบหาเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เพื่อนำข้อเท็จจริงมาร่วมกันพิจารณาหาแนวทางร่วมมือแก้ไขปัญหา ตลอดจนหาแนวทางป้องกันการแพร่กระจายในระยะยาว
สำหรับโครงการความร่วมมือสนับสนุนการแก้ปัญหา 5 โครงการนั้น มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งร่วมมือสนับสนุนกรมประมงที่มีกิจกรรมการจับปลาและปล่อยลูกปลากะพง ซึ่งพบว่าในบางพื้นที่ มีปริมาณปลาลดลงอย่างมาก ล่าสุด ได้เข้าร่วมกิจกรรมจับปลาและมอบปลากะพงเพิ่มเติมกับประมงจังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากนั้นยังได้รับการติดต่อแสดงความจำนงจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอีก 2-3 แห่ง ในการร่วมมือการทำวิจัย ทั้งการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและการวิจัยเพื่อหาแนวทางควบคุมประชากรปลาในระยะยาว
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า แม้ปัญหาปลาหมอคางดำจะเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว และเป็นปัญหาที่คาราคาซังต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน แต่ละรัฐบาลถือว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนจึงเป็นภารกิจที่รัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องเอาใจใส่ และมีความจริงจังในการแก้ปัญหา จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่าที่ผ่านมาได้จัดการไปอย่างไร และจากนี้จะมีมาตรการอย่างไร
นายชัย กล่าวอีกว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมากรมประมงได้พยายามแก้ไขแล้วแต่เอาไม่อยู่ เพราะที่ผ่านมาขาดการบูรณาการกับภาคประชาสังคมและภาคเอกชน ดังนั้นในรอบนี้จึงมีการเชิญนายกสมาคมประมง นายกสมาคมผู้เพาะพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและวางแผนในการแก้ไขปัญหา โดยตกผลึกเป็นมาตรการ 7 ข้อ ใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งปัญหาปลาหมอคางดำ จะจบสิ้นและหมดไปจริงๆ ในปี 2570 โดยจากนี้จะค่อยๆ ลดไปตามลำดับ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่าได้ผลแน่นอน เพราะเป็นการตกผลึกระหว่างภาครัฐกับเอกชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง