นักวิจัยพบว่าประชากรนกกว่า 500 สายพันธุ์ในอเมริกาเหนือมีจำนวนลดลงอย่างน่าตกใจ แม้จะเป็นพื้นที่ที่เคยมีนกชุกชุมก็ตาม หวั่นกระทบระบบนิเวศเป็นวงกว้าง
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science พบว่าสามในสี่ของนกกว่า 500 สายพันธุ์กำลังลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยมีประชากรนกชุกชุมที่สุด เช่น ในทุ่งหญ้า พื้นที่แห้งแล้ง และอาร์กติก ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศจนพังทลาย
ระหว่างการศึกษาวิจัย นักวิทยาศาสตร์จาก Cornell Lab of Ornithology ได้ใช้การสังเกตจาก eBird ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมที่นักดูนกใช้ในการบันทึกการพบเห็นนกสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อสร้างแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี 2007 ถึง 2021 ที่ช่วยให้นักวิจัยสามารถติดตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากรนกในพื้นที่ 27 ตารางกิโลเมตรทั่วอเมริกาเหนือ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจำนวนที่ลดลงจนน่าตกใจ
หนึ่งในนักวิจัยเปิดเผยว่า พวกเขาทราบมาหลายปีแล้วว่านกหลายสายพันธุ์ในอเมริกาเหนือมีจำนวนลดลง แต่ในการศึกษาครั้งนี้ พวกเขาตั้งเป้าที่จะทำความเข้าใจในรายละเอียดเชิงพื้นที่ที่ซับซ้อนมากขึ้นว่า นกสายพันธุ์ใดมีจำนวนลดลงหรืออาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นที่บริเวณอื่นแทนหรือไม่
ข้อมูลสำคัญที่พวกเขาพบคือการเปลี่ยนแแปลงของสถานที่ที่สัตว์นกหลายสายพันธุ์เคยอาศัยอยู่อาศัยและเจริญเติบโตได้ดีในอดีต ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่อาศัยของนก ปัจจุบันกลับกลายเป็นสถานที่ที่นกเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานมากที่สุดจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป สาเหตุมาจากทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อน และการคุกคามป่าไม้ของมนุษย์
แม้สถานการณ์ภาพพรวมจะค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากการหายไปของนกจากพื้นที่ที่เคยชุกชุม ย่อมหมายถึงการขาดหายของสมดุลในระบบนิเวศของพื้นที่ดังกล่าว แต่พวกเขาก็พบว่านกบางสายพันธุ์ยังสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยการไปขยายจำนวนประชากรในพื้นที่อื่นแทน
พวกเขาคาดหวังว่าข้อมูลจากการศึกษาครั้งนี้ จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวที่เกิดขึ้นกับนกสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายในการศึกษาเพื่ออนุรักษ์ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ