SHORT CUT
พบปลาน้ำกกมีแผลพุพอง-สารหนูเกิน 19 เท่า ประชาชนเริ่มได้รับผลกระทบ แม่น้ำยังขุ่น-สีเข้มผิดปกติ สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต จี้รัฐเร่งเจรจาข้ามแดน หยุดสารพิษจากเหมืองรัฐฉาน
คุณจะกล้าซื้อไหมหากรู้ว่าปลานี้มาจาก “แม่น้ำกก” สายน้ำซึ่งเคยเป็นแหล่งหล่อเลี้ยงชีวิตพี่น้องประชาชนในภาคเหนือ แต่ปัจจุบันกลายเป็นแม่น้ำที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป เฟื่องไปด้วยมลพิษ กระทบชีวิตทั้งสัตว์น้ำ และสุขภาพประชาชน ขณะเดียวกันยังไม่มีมาตรการใดจากส่วนกลาง
30 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเก็บตัวอย่างน้ำแม่น้ำกกในจังหวัดเชียงราย 9 จุด เพื่อไปตรวตหาสารหนู ผลพบว่า ค่าสูงเกินมาตรฐานถึง 19 เท่า โดยจุดที่มากที่สุดคือ น้ำรวกไหลลงแม่น้ำโขง สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน พบสารหนูปริมาณ 0.19* mg/L (ค่ามาตรฐานต้องน้อยกว่า 0.01 mg/L)
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หน่วยงานราชการทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายประกาศคำเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้น้ำจากแม่น้ำโดยตรง และเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งประชาชนงดใช้น้ำ หลังพบว่าน้ำกกขุ่นและสีเข้มผิดปกติ
5 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา มูลนิธิสยามเชียงราย รับแจ้งเหตุชาวบ้านเมืองงิม หมู่ 4 ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย เกิดอาการปวดแสบตาและตาบวมหลังลงคลองผันน้ำจากแม่น้ำกกเพื่อหาของที่ตกหล่นในน้ำ
ภายหลังเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯ เข้าไปตรวจสอบอาการของชาวบ้านรายดังกล่าวพบว่าไม่ใช่การระคายเคืองจากแมลงหรือสิ่งแปลกปลอมทั่วไป แต่อาจเป็นการอักเสบจากสารปนเปื้อนในน้ำ ล่าสุด เตรียมตัวเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าเกี่ยวข้องกับสารพิษในแม่น้ำกกหรือไม่
6 พ.ค. 68 สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งเจรจาระหว่างประเทศ 4 ฝ่าย ได้แก่ ไทย เมียนมา กลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ในรัฐฉาน และจีน เพื่อแก้ปัญหาการปล่อยสารพิษจากเหมืองต้นน้ำในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา อันเชื่อกันว่าเป็นต้นเหตุหลักของสารพิษแม่น้ำกก
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการเจรจาแก้ไขปัญหาจากภาครัฐที่เป็นรูปธรรม สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตเผยว่า จากนี้ทางสมาคมฯ จะร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนทำแผนและรับมือผลกระทบ 3 ระดับ ได้แก่
ที่มา: สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง