นักวิจัยเรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรเร่งแก้ไข หลังตรวจพบไมโครพลาสติกในสมองมนุษย์ ทั้งยังปนเปื้อนในอากาศ อาหาร และน้ำที่เราดื่มด้วย
ไมโครพลาสติกได้กลายเป็นปัญหาที่ร้ายแรงขึ้นไปอีกขั้น หลังนักวิทยาศาสตร์ตรวจพบเศษพลาสติกขนาดเล็กเหล่านี้กำลังปนเปื้อนอยู่ในอวัยวะสำคัญของร่างกายมนุษย์ ตั้งแต่หลอดเลือด ระบบหายใจ อัณฑะ และสมอง แม้จะยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่ามันกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างไรบ้าง แต่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวาย
ที่ผ่านมาไมโครพลาสติกได้ถูกย่อยสลายจากขยะพลาสติกและก่อให้เกิดมลพิษไปทั่วโลก ตั้งแต่ยอดเขาเอเวอเรสต์ไปจนถึงมหาสมุทรที่ลึกที่สุด ปนเปื้อนในทุกระบบนิเวศ แทรกซึมเข้าสู่วงจรอาหาร จนกระทั่งผู้คนได้บริโภคอนุภาคขนาดเล็กเหล่านี้ผ่านทางอาหาร น้ำ และการหายใจเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
แม้จะเป็นปัญหาที่เผชิญทั่วโลก แต่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า สหราชอาณาจักรกำลังล้าหลังที่สุดในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้เคลื่อนไหวด้วยการกำหนดเป้าหมายและจำกัดการใช้ไมโครพลาสติกในพื้นที่ต่างๆ เช่น น้ำเสียและน้ำดื่มแล้ว
ดร.อันตายา มาร์ช ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพลาสติกระดับโลก กล่าวว่า มลพิษจากไมโครพลาสติกเป็นความท้าทายด้านนโยบายข้ามพรมแดนที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่ของประชาชน และความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากแหล่งที่มาของพวกมันค่อนข้างกระจัดกระจาย และแทรกซึมอยู่ทั่วทั้งระบบนิเวศ
นักวิทยาศาสตร์จึงเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่บริโภคพลาสติกปริมาณมาก ต้องจัดทำแผนงานพร้อมเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาไมโครพลาสติก รวมถึงการแทรกแซงภาคส่วนที่มีการปล่อยมลพิษสูง เช่น ภาคเกษตรกรรม เนื่องจากตะกอนน้ำเสียที่มีไมโครพลาสติกในปริมาณสูงถูกแพร่กระจายในทุ่งนาเพื่อใช้เป็นปุ๋ย และการคลุมดินด้วยพลาสติกก็มีส่วนทำให้เกิดการปนเปื้อนในดินอย่างกว้างขวางเช่นกัน
แม้ขณะนี้ในสหราชอาณาจักรมีการห้ามผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีไมโครบีดส์ (Microbeads) แต่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ผู้คนควรตระหนักรู้ถึงการมีอยู่ของพลาสติกเหล่านี้ และต้องนำมันออกจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออกแบบเสื้อผ้าและสิ่งทอเพื่อลดการก่อไมโครพลาสติกด้วย
ศาสตราจารย์เฟย์ คูเซโร จากกลุ่มวิจัยไมโครพลาสติกแห่งมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ กล่าวว่า มลพิษจากไมโครพลาสติกเป็นภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรง หากไม่ดำเนินการอย่างเด็ดขาด สิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักรและทั่วโลกจะได้รับผลกระทบที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ และอาจคุกคามสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง นโยบายแก้ปัญหาไมโครพลาสติกที่เข้มแข็งจึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องผู้คนและสิ่งแวดล้อม