SHORT CUT
ปลาแม่น้ำโขงที่เคยมีขนาดใหญ่สุดได้เกือบเท่าหมีกริซลี่ กลับมีขนาดเล็กลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คาดสาเหตุจากโลกร้อน เขื่อนกั้นน้ำ และการประมงที่มากเกินไป
การศึกษาล่าสุดพบว่าขนาดของปลาในแม่น้ำโขงลดลงอย่างน่าตกใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นความยาวของปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดและใกล้สูญพันธุ์ที่สุด ซึ่งบางชนิดมีเคยขนาดใหญ่เท่าหมีกริซลี่ กลับมีขนาดลดลงถึง 40% ในระยะเวลาเจ็ดปี
หนึ่งในนั้นคือปลาบึกแม่น้ำโขง ที่ได้รับการติดตามศึกษามาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี และพบว่าพวกมันมีน้ำหนักลดลงจากเดิมเกินครึ่งในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา จากน้ำหนักเฉลี่ยตัวละ 180 กิโลกรัม ปัจจุบันเหลือเพียงตัวละ 80 กิโลกรัมเท่านั้น
งอร์ เป็ง บุน หนึ่งในนักชีววิทยาของทีมวิจัย เผยว่า เขาเคยพบปลาดุกยักษ์ตัวหนึ่งในปี พ.ศ. 2543 ซึ่งมีน้ำหนัก 270 กิโลกรัม ก่อนที่จะติดป้ายสำหรับติดตามและปล่อยมันไป มันตัวใหญ่มากจนเกือบทำเรือพลิกคว่ำ แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นเพียงภาพจำในอดีตเท่านั้น
ปลาตะเพียนยักษ์ หนึ่งในสายพันธุ์ปลาคาร์ปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก็มีวิวัฒนาการของขนาดตัวในทิศทางเดียวกัน และทั้งสองสายพันธุ์ก็กำลังตกอยู่ในภาวะที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง
ปัญหาคือ "ขนาดของปลา" นับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเอาชีวิตรอด เพราะปลาขนาดใหญ่แม้จะมีโอกาสผลิตไข่เพื่อสืบเผ่าพันธุ์ได้มากกว่า แต่ก็มีโอกาสถูกชาวประมงจับได้มากกว่าเช่นกัน ทั้งปลาขนาดใหญ่แม้จะมีอายุยืนยาวแต่กลับเติบโตและขยายพันธุ์ได้ช้า เมื่อพวกมันถูกจับหรือตายมากขึ้น ก็จะทำให้มีประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ปลายักษ์ใหญ่แห่งแม่น้ำโขงเหล่านี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศของแม่น้ำ แต่อีกด้านก็ยังเป็นศูนย์กลางการดำรงชีวิตของผู้คนหลายล้านคนที่พึ่งพาการประมงด้วย
นี่เป็นปัญหาที่ระบบนิเวศทั่วโลกกำลังเผชิญ เมื่อการตกปลาและล่าสัตว์มักมุ่งเป้าไปที่สัตว์ขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งส่งผลให้จำนวนสัตว์หลายชนิดลดลง รวมถึงปลาค็อดในทะเลบอลติก ปลาแซลมอนในอลาสก้า ฉลาม และยังทำให้ช้างแอฟริกันมีงาที่เล็กลงด้วย
นอกจากการทำประมงมากเกินไปแล้ว ปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงยังต้องประสบปัญหาเขื่อนกั้นน้ำซึ่งขัดขวางการอพยพไปยังแหล่งวางไข่ของพวกมัน วิกฤตการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศซึ่งส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนตามฤดูกาล และการทำลายป่าเพื่อการเกษตร
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป เนื่องจากยังคงมีการพบปลาขนาดใหญ่อยู่บ้าง แต่มันจะมีความหมายน้อยมาก หากเราไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างตอนนี้เพื่อปกป้องปลาและระบบนิเวศของแม่น้ำที่เป็นบ้านของสรรพชีวิตอีกหลายสายพันธุ์ ซึ่งหมายความว่าอนาคตของแม่น้ำโขงกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย
นอกจากความพยายามอนุรักษ์แล้ว นักวิจัยระบุว่า ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือ "การบังคับใช้กฎหมาย" โดยเฉพาะการควบคุมการประมงในการจับปลาขนาดใหญ่ และชาวประมงท้องถิ่นเองก็ต้องเป็นแนวหน้าในการช่วยแก้ไขปัญหานี้ไปพร้อมๆ กัน