svasdssvasds

"Warrix" จากแบรนด์เสื้อกีฬาไทย มุ่งสู่ตลาดไลฟ์สไตล์เอเชีย

"Warrix" จากแบรนด์เสื้อกีฬาไทย มุ่งสู่ตลาดไลฟ์สไตล์เอเชีย

จากช่องว่างการตลาดเสื้อกีฬาไทย ทำให้เกิด “Warrix” แบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยแพชชั่นและความเป็นนักสู้ของ "วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล" ที่มุ่งเป้าเป็นที่หนึ่งด้าน Active&Lifestyle ระดับอาเซียนพร้อมเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยวิธีคิดขององค์กร

SHORT CUT

  • เปิดมุมมองธุรกิจของ "วิศัลย์" ผู้ก่อตั้งแบรนด์วอริกซ์
  • ใช้ช่องว่างการตลาดและเครื่องหมายการค้าสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด 
  • ธุรกิจสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคม มุ่งเป้าเจ้าตลาดไลฟ์สไตล์อาเซียน

จากช่องว่างการตลาดเสื้อกีฬาไทย ทำให้เกิด “Warrix” แบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยแพชชั่นและความเป็นนักสู้ของ "วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล" ที่มุ่งเป้าเป็นที่หนึ่งด้าน Active&Lifestyle ระดับอาเซียนพร้อมเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยวิธีคิดขององค์กร

ท่ามกลางการขยายตัวของกลุ่มผู้ใส่เสื้อกีฬาไปสู่การใส่ในชีวิตประจำวัน "Warrix" ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังเป็นดาวรุ่งในธุรกิจเสื้อกีฬาและปรับตัวเพื่อรองรับตลาดไลฟ์สไตล์ได้ทันกับสถานการณ์ เบื้องหลังคือวิสัยทัศน์และการมองเห็นโอกาสจากช่องว่างทางการตลาดของ "ฮิม นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล" ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) ที่ SPRiNG ได้พูดคุยเจาะลึกถึงจิตวิญญาณนักสู้ที่ผ่านทอดผ่าน Brand Identity ของ Warrix

ฮิมเล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นของชีวิตความเป็นนักสู้ หลังครอบครัวล้มละลายเมื่อตอนเรียนอยู่ชั้น ม.2 เขาจึงหันมาทำงานทุกอย่างที่ได้เงิน ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างถ่ายภาพงานศพและงานแต่ง รับซ่อมตุ๊กตาเสียที่โรงงานและเอาไปขายเพื่อเอาเงินไปจ่ายค่าเล่าเรียน และรับจ้างสอนพิเศษตอนอยู่มหาวิทยาลัย ฮิมเล่าให้ฟังอย่างติดตลกว่า ที่เข้าเรียนคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ เพราะว่าใกล้บ้าน สามารถเดินมาเรียนได้โดยไม่เสียค่ารถ

เรียนจบก็มาทำงานเป็นลูกจ้างอยู่บริษัทขายปูนแห่งหนึ่ง ดูแลด้านการนำเข้าและส่งออก ทำให้เห็นถึง "Niche Market" (ตลาดเฉพาะกลุ่ม) เช่น ปูนเหมือนกันแต่ใส่ถุงต่างกันก็ขายได้ราคาต่างกัน แต่เมื่อเห็นช่องว่างทางการตลาดก็หันมาทำโรงงานเป็นของตัวเอง 11 ปี จนประสบความสำเร็จและขายโรงงานต่อให้น้องสาว 

เสื้อโปโลวอริกซ์

การสร้างแบรนด์วอริกซ์จากช่องว่างการตลาด

จุดเริ่มต้นการทำธุรกิจเสื้อผ้า เริ่มมาจากเพื่อนทำธุรกิจด้านนี้ก่อนแล้วขาดเงินทุนหมุนเวียน จึงมาขอความช่วยเหลือโดยใช้เครดิตจากฮิมไปสั่งของ แต่สุดท้ายก็เกิดการโกงกันในบริษัททำให้ไปต่อไม่ได้ ฮิมเองจึงต้องไปยึดของในบริษัทเพื่อนที่สั่งด้วยเครดิตชื่อของตัวเองมาขาย ขณะเดียวกันมีเพื่อนอีกคนที่จะขายของ ฮิมก็เข้าไปช่วยเขาสร้างแบรนด์ แต่สุดท้ายเขาก็ใจไม่สู้ ฮิมจึงเอาวัตถุดิบจากสองกรณีนี้มาทำเป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยใช้ชื่อ "Warrix" ที่มาจากคำว่า Warrior และ Wisan คือนักสู้ที่ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ ใช้เวลาหนึ่งปีในการสร้างแบรนด์และทำการตลาด ซึ่งตอนนั้นแบรนด์เสื้อผ้ากีฬามีช่องว่างการตลาดที่ใหญ่นั่นคือ แบรนด์ไทยขายราคาไม่เกิน 300 บาท แต่แบรนด์ต่างประเทศขายที่ราคาเริ่มต้น 1,000 บาท เกิดช่องว่าง 700 บาท แบรนด์ของเขาจึงขายในราคา 300-1,000 บาท กลายเป็น Niche Market

"Warrix เกิดได้จากคำว่า Niche Market เจ้าตลาดถ้าเขาเปิดช่อง แล้วเขาไม่ปิดช่อง เราเสียบเลย ในตลาดมันเหมือนฟุตบอล ไม่ต้องชนะ 10:0 ชนะแค่ 1:0 ก็ชนะแล้ว ถ้าเอาของมาว่าคู่กัน เขาซื้อของเรา ไม่ซื้ออีกอันก็จบ"

นอกจากนี้ยังใช้ License Marketing มาเป็นเครื่องมือทางการตลาด เซ็นสัญญาผูกขาดแลกเปลี่ยนสิทธิการใช้โลโก้ของวอริกซ์ควบคู่กับโลโก้ขององค์กรนั้นๆ เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย สโมสรกีฬาประจำจังหวัด หรืออีเวนต์ต่างๆ เพราะแฟนบอล แฟนเพลง และศิษย์เก่ามีกำลังซื้อและมีโอกาสจะซื้อซ้ำถ้าได้ลองใส่เสื้อสถาบันแล้วชอบคุณภาพ และบริจาครายได้บางส่วนกลับไปให้สถาบันด้วย ก่อนที่จะขยายตลาดไปยังเด็กและให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน ฮิมบอกว่าเขาคือคนที่อายุเยอะที่สุดในบอร์ดบริหาร แต่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มาช่วยคิดมากขึ้น

"การสร้างแบรนด์มาจาก Passion และตัวตนของพี่...สินค้าทุกชิ้นพี่จะใส่เอง ลองเอง และ Approve เอง"

ขณะเดียวกัน สินค้าทุกอย่างของวอริกซ์ทำขึ้นมาสำหรับเมืองร้อนใส่แล้วสบาย ทำให้ลูกค้าใส่แล้วชอบและซื้อซ้ำ เป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างแบรนด์ แม้สินค้าที่ขายดีตลอดกาลของวอริกซ์คือเสื้อโปโลด้วยยอดขาย 40% แต่กางเกงยีนส์เป็นไลน์ธุรกิจใหม่ ตัวเองเฝ้าดูมานาน เพราะมันมีมูลค่าตลาด 20,000 ล้านบาท แม้ผู้เล่นเบอร์หนึ่งทั้งแบรนด์นอกพอๆ กับแบรนด์ไทย เติมเต็มทุกช่องราคา แต่หลังโควิด เกิดช่องว่างการตลาดในช่วงราคา 1,000-2,000 บาท ประกอบกับผลการสำรวจพบว่าลูกค้าที่ซื้อเสื้อวอริกซ์ 1 ใน 3 ใส่กางเกงยีนส์ จึงหันมาผลิตกางเกงยีนส์สัญชาติไทยและจะเปิดตัวเดือนสิงหาคมนี้

กางเกงยีนส์วอริกซ์

ปรัชญาฟุตบอลกับธุรกิจ

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง การแข่งขัน FIFA มีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า GDP ของหลายประเทศด้วยซ้ำ ดังนั้นในการเริ่มต้นธุรกิจที่มีทุนจำกัด เราก็ต้องเอาทุนมาสร้างผลตอบแทนสูงสุด เพื่อเอาเงินมาต่อเงิน ต่อยอดเป็นกีฬาอื่นๆ เช่น วิ่ง บาสเก็ตบอล และเสื้อผ้าผู้หญิง 

ฮิมบอกว่าเขาชอบดูฟุตบอล และชอบปรัชญาของกีฬา คือ ความเสมอภาคและเท่าเทียม และที่สำคัญคือ Beauty in the Game (เล่นเกมส์อย่างสุภาพบุรุษ) เขาก็ปรับมาเป็น Beauty in the Life มาใช้ในชีวิตจริง เช่น การเลือกพรีเซนเตอร์จากความสามารถ เป็นนักสู้ ไม่ใช่หน้าตาหรือความร่ำรวย เป็นต้นแบบให้เยาวชน เราสามารถเอาปรัญชาเหล่านี้มาสร้างค่านิยมในสังคมได้ เหมือนกับตัวเขาที่เคยผิดพลาดมาเยอะมาก แต่ไม่เคยยอมแพ้ สู้จนกว่าจะชนะ เขายังคิดเสมอว่าต้องเอาธุรกิจ เอาภาคเอกชนนำการเปลี่ยนแปลงในสังคม เราต้องค้าขายโดยไม่ยอมเรื่องคอร์รัปชัน ทำการตลาดเปลี่ยนแปลงค่านิยมในสังคม และทำสินค้าเพื่อให้คนไทยใช้ของดีๆ

เขายอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนเก่ง แต่เป็นคนขยัน ทุ่มเท และเวลาทำอะไรจะกัดไม่ปล่อย นั่นหมายความว่าเขาเคยพลาดมาหลายครั้งจนกว่าจะสำเร็จ เช่น เคยเปิดคลินิกเสริมความงาม แต่ตัวเองไม่อิน ก็ไม่รู้วิธีทำยอดขาย สุดท้ายก็เจ๊ง หรือความไม่รู้บริบททางสังคมและกฎหมายของอินโดนีเซีย เคยจะไปขายเสื้อที่นั่น กลับถูกเรียกเงินใต้โต๊ะ แต่ไม่ยอม สุดท้ายก็ต้องเก็บของกลับมาประเทศไทย ดังนั้นการทำธุรกิจให้สำเร็จต้องเงินถึง ความสามารถถึง ใจถึง และข้อมูลต้องถึง

นอกจากนี้ ที่สำคัญคือการมีวินัย ทำให้บริษัทโตจาก 0 เป็น 1,000 ล้านบาทภายใน 10 ปี และอนาคตจะขยายตลาดไปในอาเซียน เพราะตลาดเสื้อผ้ากีฬาในไทยมีขนาด 30,000 ล้านบาท แต่ตลาดเสื้อผ้ากีฬาและไลฟ์สไตล์ยังไม่มีแบรนด์ท้องถิ่นไหนเป็นผู้นำในตลาด ถือเป็นช่องว่างการตลาดขนาดใหญ่ และขณะเดียวกันแบรนด์อินเตอร์ก็ไม่สามารถทำการตลาดอย่างเข้าใจคนในท้องถิ่นได้เท่ากับแบรนด์ท้องถิ่น หรือ Local Marketing และคาดว่าภายใน 10 ปีต้องเป็นผู้นำอาเซียนให้ได้

"สู้ดิ สู้แล้วยังไงมันก็ชนะสักวัน แค่คิดว่าจะสู้ก็ชนะแล้ว"

บริบทโลกและสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปทุกวัน เราต้องใช้ AI และ Data เข้ามาช่วยรับฟังความเห็นจากลูกค้า เพราะเมื่อโลกเปลี่ยนเราต้องเปลี่ยนให้ทันโลก เพราะพนักงานทุกคนต้องเลือกว่าจะพัฒนาตัวเองให้ทัน หรือจะลาออก ฮิมบอกว่าใครที่อยู่กับเขาได้ต้องอยู่อย่างนักรบในป่า ไม่ใช่อยู่ในสวนสัตว์ แต่ทุกคนจะเก่งขึ้นหมด

"ถ้ารู้ว่าอะไรที่โลกเปลี่ยนแล้ว เราเปลี่ยนเลย ไม่ต้องรอให้คู่แข่งมาแย่งส่วนแบ่งในตลาดของเรา เขาซื้อลูกน้องที่เก่งที่สุดของเราไป ให้เงินเดือนสองสามเท่า ก็ได้แค่เดินตาม ได้แต่อดีตของพี่ไป ไม่ได้สมองกับอนาคตของพี่ไป"

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำวอริกซ์!

"ถ้าตื่นมาแล้วไม่อยากทำงาน คุณจะไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าตื่นมาแล้วอยากทำงานคุณจะใส่เต็มที่ทั้งพลังและความคิดสร้างสรรค์กับงานที่ได้...คิดเสมอว่าต้องทำได้ ทำดีกว่า และทำดีที่สุด ถ้าวันนี้เราทำดีกว่าเมื่อวานคู่แข่งก็ได้แต่เดินตาม แต่ถ้าวันนี้ทำแย่กว่าเมื่อวาน สักวันก็จะมีคนแซงเรา"

ฮิมเล่าว่าหลายคนมักมาถามตัวเองว่าอยากลงทุนทำอะไรดี? แต่เขาก็จะตอบกลับไปว่าต้องถามตัวเองว่าชำนาญอะไร? ถ้าเราไม่เอาตัวเองเข้ามาในตลาด มองในฐานะคนขาย เข้ารกเข้าพรงก็เยอะ แต่ถ้าเรามองอย่างผู้ใช้ เราจะรู้ตลาดดี เพราะทุกตลาดมีช่องว่าง

ถ้าพูดถึงคำว่า "ประสบความสำเร็จ" คนส่วนมากมักจะมองที่เงิน แต่ฮิมบอกว่าถ้ามีเงินน้อย แต่มีความสุขมากก็ถือว่าประสบความสำเร็จ มีเงินเพียงพอสำหรับใช้ชีวิตให้ดี เขาเชื่อว่าคนที่หิวเงินจะไม่มีวันอิ่มเงิน เราถูกสอนว่าทำธุรกิจให้ได้กำไรสูงสุด สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องคิดว่าจบมาจะได้งานที่เงินเดือนเยอะหรือเปล่า แต่ตรงกันข้าม เราควรถามตัวเองว่ามีความสุขกับงานที่ทำหรือไม่? ถ้ามีเงินเดือนเพียงพอ มีเวลาอยู่กับลูกและครอบครัว ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกโตแล้วค่อยมีเวลาให้ ตอนนั้นเขาก็ไม่อยากอยู่กับเราแล้ว

ลูกสาวของเขาเคยถามว่า "เราต้องมีเงินเท่าไรถึงจะมีความสุข?" ฮิมคิดและตอบกลับไปว่า "ถ้าเลือกได้จะไม่สร้างแบรนด์วอริกซ์ แต่จะกลับไปมีชีวิตก่อนที่จะมีวอริกซ์ และใช้ชีวิตกับเด็ก 9 ขวบวันนั้น อยากอยู่กับเขาวันละ 4-6 ชั่วโมง อยากพาเขาไปเที่ยวเสาร์อาทิตย์ แต่มันผ่านไปแล้ว กลับไปซ่อมไม่ได้แล้ว" ฮิมกล่าวต่อไปว่า ความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกิจการ แต่แค่มีความสุขกับงานที่ทำ เป็นประชากรที่มีคุณภาพในสังคม น่ายกย่องแล้ว เทียบกับหลายคนที่แม้จะมีเงินเยอะแยะมากมาย แต่คนสาปแช่งค่อนประเทศก็ไม่มีความสุข

เป้าหมายของวอริกซ์คือการให้ ลูกค้าและพนักงานมีสุขภาพที่ดีและความสุขอยู่กับแบรนด์ไปอย่างยั่งยืน ทุกวันนี้เขามีความสุขกับงานที่ทำ อยากไปทำงานที่รัก กลับบ้านก็รีเซ็ต ไม่ให้สิ่งที่ผิดพลาดในเมื่อวานมาทำลายวันนี้ และเดินหน้าสร้างตำนานสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม

related