svasdssvasds

เพื่อนรักนักบำบัด ทำไมสัตว์เลี้ยงจึงเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้

เพื่อนรักนักบำบัด ทำไมสัตว์เลี้ยงจึงเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้

หรือนี่อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่คนรุ่นใหม่ หันไปเลี้ยงสัตว์เป็นลูกมากกว่ามีลูกเป็นคนจริง ๆ สัตว์เลี้ยงบำบัดใจได้จริงไหม? รวมบทบาทหมา-แมวที่ทำมากกว่าน่ารัก

SHORT CUT

  • ผู้คนปัจจุบัน นิยมเลี้ยงสัตว์มากกว่าการมีลูก เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่ทำให้ยังไม่พร้อมจะมีภาระผูกพันระยะยาว ในทางกลับกัน สัตว์เลี้ยงทำให้สภาพจิตใจดีกว่าการเลี้ยงเด็ก
  • นั่นจึงเป็นที่มาของ "เพื่อนรักนักบำบัด" พลังที่ซ่อนเร้นของสัตว์เลี้ยง คือเป็นจิตแพทย์ส่วนตัวโดยที่เราอาจไม่รู้ตัวมาก่อน
  • งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า การใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงทำให้สภาพจิตใจของเราดีขึ้นได้จริง ไม่ว่าวันนั้นคุณจะเจอเรื่องแย่แค่ไหนมาก็ตาม
  • สัตว์แต่ละสายพันธุ์จะเยียวยาคุณในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ตามลักษณะเฉพาะของสัตว์นั้น ๆ 
  • ดังนั้น อย่ามองข้ามเพื่อนคู่กาย ที่อาจหาคนจริงใจแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

หรือนี่อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่คนรุ่นใหม่ หันไปเลี้ยงสัตว์เป็นลูกมากกว่ามีลูกเป็นคนจริง ๆ สัตว์เลี้ยงบำบัดใจได้จริงไหม? รวมบทบาทหมา-แมวที่ทำมากกว่าน่ารัก

ถ้าใครเป็นพ่อแม่หมาแมว หรือมีบัดดี้เป็นสัตว์ชนิดใดก็ตาม คุณจะรู้ทันทีว่า ทำไมผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันจึงหันไปเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก แทนการมีลูกที่เป็นคนจริง ๆ ซึ่งกระแสนี้ไม่ได้มีแค่ในไทย แต่เกิดขึ้นทั่วโลก

การใช้ชีวิตในทุก ๆ วันของคนรุ่นใหม่ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะต้องเจอกับสารพัดแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว และความคาดหวังทางสังคมที่แทบจะไม่มีจุดหยุดพัก หลายคนรู้สึกว่า แค่เอาตัวรอดให้ได้ในแต่ละวันก็หนักพอแล้ว การมีภาระเพิ่มขึ้นอย่างการเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งไปตลอดชีวิตนั้น อาจเป็นสิ่งที่ยังไม่พร้อม หรืออาจไม่อยากเลือกในตอนนี้

AI Generate

ในทางกลับกัน สัตว์เลี้ยงคือสิ่งมีชีวิตที่มอบความรักให้เราแบบไร้เงื่อนไข ปรับตัวได้กับวิถีชีวิตที่หลากหลาย และโดยทั่วไปแล้ว มีภาระผูกพันในระยะยาวน้อยกว่า รวมถึงต้นทุนการเลี้ยงดูที่น้อยกว่าด้วย แม้ว่าใครจะดูแลสัตว์อย่างดีจนค่าใช้จ่ายอาจจะสูงขึ้นบ้าง แต่ก็ยังถือว่า “เบากว่า” การมีลูกมนุษย์ และที่สำคัญสัตว์เลี้ยงมักสร้างปัญหาทางอารมณ์ให้เราน้อยกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ

ด้วยเหตุนี้ SPRiNG UP YOUR SOUL จะหยิบยกมาพูดคุยกันในบทความนี้ กับบทบาทของสัตว์เลี้ยง ที่นอกจากจะมอบความรักเต็มร้อยให้กับเจ้าของแล้ว ยังมีอีกบทบาทหนึ่งที่ซ่อนเร้น ซึ่งบางครั้งเราก็มองไม่ออกว่าเขากำลังสวมบทเป็นสัตว์นักบำบัด หรือ จิตแพทย์ส่วนตัวให้เราอยู่ และนี่คือบทบาทของพวกเขาที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน

AI Generate

สัตว์เลี้ยง “รู้” เมื่อเรากำลังไม่ไหว

งานวิจัยหลายชิ้นบอกว่า หมาและแมวสามารถจับสัญญาณอารมณ์ของมนุษย์ได้ผ่านน้ำเสียง สีหน้า หรือแม้แต่พฤติกรรม เช่น สุนัขมีแนวโน้มเข้าไปซุกหรือจ้องหน้าเจ้าของ เมื่อเจ้าของมีสีหน้าเครียดหรือเสียงเปลี่ยนจากปกติ อีกงานวิจัยถึงขั้นเอาสุนัขเข้าเครื่อง MRI แล้วพบว่า สมองของมันตอบสนองต่อเสียงร้องไห้และเสียงหัวเราะเหมือนกับมนุษย์เลยทีเดียว

Cr.Current Biology

แมวเองก็มีสัญชาตญาณลึกซึ้งเช่นกัน แม้จะดูเฉยเมย ไม่รีบเร่งแบบหมา แต่หลายครั้งก็เข้ามานั่งข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ หรือส่งเสียง "เมี้ยว" เบา ๆ เมื่อเรารู้สึกเศร้า เป็นเหมือนเพื่อนที่ไม่พยายามปลอบ แต่แค่อยู่ตรงนั้น ก็พอแล้ว

แค่ลูบหัวสัตว์เลี้ยง สมองเราก็หลั่งสารแห่งความสุข

ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์ไม่ได้เกิดแค่ความน่ารัก แต่เกิดการตอบสนองของร่างกายที่แท้จริง งานวิจัยระบุว่า การสัมผัสสัตว์เลี้ยงจะช่วยลดคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) พร้อมเพิ่มสารเคมีดี ๆ อย่างโดปามีน เซโรโทนิน และออกซิโทซิน สารที่ทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข

เพื่อนรักนักบำบัด ทำไมสัตว์เลี้ยงจึงเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้

คลายเหงาในวันที่ออกจากบ้านไม่ได้

นอกจากนี้งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า การมีสัตว์เลี้ยงอยู่เคียงข้างจะทำให้เจ้าของเหงาน้อยลง ยกตัวอย่างในช่วงล็อกดาวน์ ในวันที่ผู้คนออกไปนอกบ้านน้อยมาก ๆ เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เมื่อถูกตัดขาดจากสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้สภาพจิตใจห่อเหี่ยว มีงานวิจัยได้เก็บข้อมูลมาแล้วพบว่า ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 อัตราการรับเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น คำค้นหาส่วนใหญ่ในกูเกิลเกี่ยวกับการรับเลี้ยงสุนัขและแมว พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงแรกของการแพร่ระบาด

Cr. Nature

เมื่อสัตว์เลี้ยงช่วยให้มนุษย์ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

ช่วงโควิด-19 ที่ผู้คนต้องอยู่แต่ในบ้าน เกิดปรากฏการณ์ “Pet Boom” ทั่วโลก การรับเลี้ยงสัตว์พุ่งขึ้นสูงจากความเหงาและความวิตกกังวล สัตว์เลี้ยงกลายเป็นที่พึ่งทางใจที่จับต้องได้ พูดไม่ได้ แต่เข้าใจเรา

ไม่ใช่แค่การให้ความรัก แต่การมีสัตว์เลี้ยงยังช่วย “จัดระเบียบชีวิต” โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่น หรือเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม งานวิจัยหนึ่งระบุว่า เด็กที่ได้ดูแลสัตว์เลี้ยงจะมีความรับผิดชอบและวินัยมากขึ้น เช่น เด็กเบาหวานที่ดูแลปลาทองวันละสองครั้ง มีความสม่ำเสมอในการวัดระดับน้ำตาลในเลือดมากขึ้นชัดเจน

เพื่อนรักนักบำบัด ทำไมสัตว์เลี้ยงจึงเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้

 

พลังบำบัดจากสัตว์หลากสายพันธุ์

สุนัข ผู้ฟังที่ไม่มีวันบ่น

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความสามารถพิเศษในการอ่านอารมณ์มนุษย์ได้ดีกว่าสัตว์อื่น ด้วยความจงรักภักดีและพลังงานบวกที่ไม่มีหมด สุนัขสามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่าง ตั้งแต่ผู้ช่วยคนพิการ ตำรวจ K9 นักดมกลิ่นโรค จนถึงนักบำบัดในโรงพยาบาลและบ้านพักคนชรา

เพื่อนรักนักบำบัด ทำไมสัตว์เลี้ยงจึงเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้

นอกจากนี้ งานวิจัยหนึ่งในเด็กสมาธิสั้นพบว่า เด็กที่ได้อ่านหนังสือให้สุนัขฟัง มีพัฒนาการด้านพฤติกรรมและความสัมพันธ์ทางสังคมดีกว่าเด็กที่อ่านให้หุ่นสัตว์ฟัง เพราะสุนัข “ไม่ตัดสิน” และ “ไม่ขัดจังหวะ” ทำให้เด็กมีความมั่นใจในการสื่อสารมากขึ้น

แมว นักเยียวยาเงียบที่ไม่มีเงื่อนไข

แมวอาจดูเป็นสัตว์ที่อยู่ในโลกของตัวเอง แต่ในวันที่เราอ่อนแอ แมวคือผู้ฟังเงียบ ๆ ที่เต็มไปด้วยพลังเยียวยา เสียงครางของแมวอยู่ในช่วงความถี่ที่สามารถช่วยลดความเครียด ปรับสมดุลความดันโลหิต และแม้แต่ช่วยให้กระดูกสมานตัวเร็วขึ้น

พวกมันไม่เข้ามาปลอบ ไม่พยายามเปลี่ยนความรู้สึกเรา แต่เลือกจะ “อยู่” ข้าง ๆ อย่างไม่ตัดสิน และบางครั้ง นั่นคือทั้งหมดที่เราต้องการ

เพื่อนรักนักบำบัด ทำไมสัตว์เลี้ยงจึงเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้

ปลาทอง เพื่อนเงียบที่ทำให้ใจนิ่ง

แม้จะกอดไม่ได้ เดินเล่นไม่ได้ แต่ปลาทองคือสัตว์ที่ช่วยให้จิตใจสงบนิ่ง งานวิจัยพบว่า การดูปลาว่ายน้ำสามารถลดความเครียดและกระตุ้นสมาธิได้ดี โดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่นหรือผู้ที่ต้องการฝึกวินัยการใช้ชีวิต เช่นในกรณีเด็กเบาหวานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลปลาเป็นประจำ

เพื่อนรักนักบำบัด ทำไมสัตว์เลี้ยงจึงเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้

หนูตะเภา ผู้บำบัดอารมณ์เด็กออทิสติก

สัตว์ฟันแทะเล็ก ๆ อย่างหนูตะเภา มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเด็กออทิสติก งานวิจัยหนึ่งพบว่า การให้เด็กเล่นกับหนูตะเภาในห้องเรียนช่วยลดความวิตกกังวล เพิ่มความร่วมมือ และกระตุ้นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญ

เพราะความรักที่ไม่ต้องมีคำพูด ก็เยียวยาได้

สัตว์เลี้ยงไม่เคยขออะไรจากเรา มากไปกว่าการมีเราอยู่ข้าง ๆ แต่สิ่งที่พวกเขาให้กลับมา กลับมีพลังมากกว่าที่เราคิด พวกเขาไม่เพียงแต่เป็น “เพื่อน” แต่เป็น “ผู้รักษา” ที่เยียวยาหัวใจในวันที่โลกภายนอกโหดร้ายเกินจะรับไหว

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวันที่ดีหรือแย่แค่ไหน สัตว์เลี้ยงจะไม่หนีไปไหน ไม่ตั้งคำถาม ไม่ตัดสินใจแทนคุณ แต่จะอยู่ตรงนั้นเสมอ และนั่นอาจเป็นบทบาทนักบำบัดที่ดีที่สุด ที่มนุษย์บางคนยังให้กันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ที่มาข้อมูล

News in Health

BBC

Health Insurance Fund of Australia Limited (HIF)

Cultivating Health

PranaPet

Mental Health Foundation UK

World Economic Forum

related