"อภิศักดิ์" สั่ง! แก้ปัญหาปิดบัญชี เลี่ยงภาษีเงินฝาก

กระทรวงการคลัง จะเข้ามาแก้ปัญหา ธนาคารแนะนำลูกค้าปิดบัญชีเงินฝากที่ได้ดอกเบี้ย 2 หมื่นบาทขึ้นไป เพื่อเลี่ยงภาษีหัก ณ ที่จ่าย

[caption id="attachment_100660" align="aligncenter" width="743"] นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[/caption]

วันที่ 22 ก.ย.60--นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับรายงานว่า มีสถาบันการเงินขนาดเล็กที่ไม่ใช่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่บางแห่ง ใช้ช่องว่างกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้คนรวย เลี่ยงจ่ายภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ โดยถ้าดอกเบี้ยไม่ถึง 20,000 บาท ต่อ ปี ไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 15

ทั้งนี้ ธนาคารแนะนำผู้ฝากเงิน เมื่อดอกเบี้ยเงินฝากใกล้ถึง 20,000 บาท ให้ปิดบัญชีเพื่อเลี่ยงจ่ายภาษี และเปิดบัญชีใหม่ และทำเช่นนี้ต่อเนื่องเพื่อเลี่ยงจ่ายภาษี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งให้กรมสรรพากร หามาตรการป้องกัน เช่น เลิกการยกเว้นเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพื่อให้ทุกคนต้องเสียภาษี และเมื่อสิ้นปีให้ขอคืนภาษีภายหลัง แต่มาตรการนี้จะกระทบผู้ฝากเงินโดยสุจริต ส่วนอีกแนวทาง คือ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย กำชับและตักเตือน หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษ

ด้าน นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ยอมรับว่าไม่มีข้อมูลว่าธนาคารรายใดที่แนะนำลูกค้าตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุ ซึ่งตามกฎหมายจะยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายร้อยละ 15 ของดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ที่ไม่เกิน 20,000 บาท หลังจากนี้หากภาครัฐจะออกมาตรการปิดช่องว่าง ธนาคารทุกแห่งพร้อมปฏิบัติตาม

สำหรับ หลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร กำหนดว่า ดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จะได้รับยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่ายในส่วน 20,000 บาทแรก หากเกิน 20,000 บาท จะต้องนำมารวมเพื่อคำนวณภาษีเงินได้ทั้งจำนวน ยกตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ตอนนี้อยู่ที่ 0.5% ต่อปี หมายความว่าคนที่มีเงินที่มีเงินฝาก 4 ล้านบาทจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% หรือ 3 พันบาท

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 มีเงินฝากออมทรัพย์อยู่ในธนาคารพาณิชย์ 82 ล้านบัญชี วงเงินรวม 7.15 ล้านล้านบาท แต่ผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ 72 ล้านบัญชี มีเงินฝากไม่เกิน 5 หมื่นบาท ยอดเงินฝากรวม 320,000 ล้านบาท เกิน 5 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 8.4 ล้านบัญชี เกิน 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท 8 แสนกว่าบัญชี 10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท 55,000 บัญชี เกิน 100 ล้านบาท 4,329 บัญชี

ถ้ารัฐบาลกำหนดให้รายได้จากดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทุกบัญชีต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย หากนำจากยอดเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ที่มีอยู่หมด 7.1 ล้านล้านบาท มาคำนวณกับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ 0.5% แล้วหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% หมายความว่ารัฐจะสามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายจากรายได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ได้กว่า 5.3 พันล้านบาท/ปี