ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ระบุ ยังไม่ชัดว่าตำรวจที่ช่วย นางสาวยิ่งลักษณ์หนี ผิดอาญา ต้องดูข้อเท็จจริงจากการสอบสวน แต่ในทางวินัยหากประพฤติชั่วต้องออกจากราชการ
[caption id="attachment_104238" align="aligncenter" width="483"] นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.[/caption]
วันที่ 25 ก.ย.60--นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 คน ที่ให้การช่วยเหลือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีไม่เข้าฟังคำพิพากษาไม่มีความผิด ว่า ตอนนี้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับคือ ประมวลกฎหมายอาญา และระเบียบข้าราชการตำรวจ ซึ่งในระเบียบข้าราชการ มีการกำหนดไว้ว่า ข้าราชการตำรวจจะต้องไม่ประพฤติชั่ว หากประพฤติชั่ว ก็มีโทษถึงจากออกจากราชการ โดยต้นสังกัดจะเป็นผู้พิจารณาว่าการกระทำใดเข้าข่าย สำหรับกรณีที่มีนักกฎหมายอ้างว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะ ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในการสอบสวนคดี
[caption id="attachment_104240" align="aligncenter" width="553"] นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี[/caption]
นายมีชัย ยังกล่าวถึงการพิพากษาคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ ด้วยว่า หากในวันที่ 27 กันยายนนี้ ศาลพิพากษาให้มีความผิด จำเลยมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คดีได้ภายใน 30 วัน แต่หลักเกณฑ์ การยื่นจำเลยอาจต้องมายื่นด้วยตนเอง เพราะแม้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะยังไม่มีผลบังคับ แต่ศาลก็มีอำนาจใช้ดุลพินิจนำกฎหมายอื่นที่มีอยู่มาพิจารณาก็ได้ เช่น วิธีพิจารณาความอาญา ที่กำหนดให้จำเลยต้องมายื่นอุทธรณ์ด้วยตนเองเช่นกัน
ส่วนเงินประกัน 30 ล้านที่ ศาลยึดไปก่อนหน้านี้ แม้วันที่ 27 กันยายนจำเลยจะไม่มีความผิด ศาลก็จะไม่คืนเงินประกัน เพราะเงินประกันในส่วนนั้น คือเงินที่ยึดเพราะจำเลยไม่มีฟังคำพิพากษาศาล ไม่เกี่ยวกับคดี
สำหรับการนับอายุความ จะเริ่มนับหลัง 30 วัน ของการยื่นอุทธรณ์ แต่หากกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ระหว่าง 30 วันนั้น ก็จะไม่นับอายุความ