ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ ให้คะแนนการทำงานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ได้ 1 เต็ม 10 ระบุไม่ตอบโจทย์ข้อเรียกร้องของประชาชนได้ พร้อมเสนอ 4 แนวทางปฏิรูป
ที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย วานนี้(1 ต.ค.) นางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ หรือ คป.ตร. ร่วมกับผู้แทน 42 องค์กรประชาชน ประชุมประเมินการดำเนินงานของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่มีพลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ในรอบ 3 เดือน
โดยที่ประชุมมีความเห็นร่วมกัน 4 ข้อ เพื่อเสนอแนะต่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ คือ 1.การแยกพนักงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้มีการบันทึกภาพและเสียงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่อัยการสามารถตรวจสอบได้ทุกคดี ตั่งแต่เริ่มเป็นคดีหรือมีการร้องเรียน 2. เร่งดำเนินการตามที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เสนอให้โอนตำรวจ 11 หน่วยที่เป็นการรักษากฎหมายเฉพาะด้านไปให้กระทรวง ทบวง กรม ที่รับผิดชอบ ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 ปี ตามรายงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2558 3.ให้มีการกระจายอำนาจตำรวจไปเป็นตำรวจจังหวัด และยุบกองบัญชาการภาค ผลักดันให้เป็นนิติบุคคลมีอำนาจมากขึ้น 4.งานบริหารงานบุคคล เห็นว่าการแต่งตั้งโยกย้ายให้พิจารณาความอาวุโส เพื่อสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและสร้างความเป็นธรรม ลดการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง
ทั้งนี้ คป.ตร. เห็นว่าการทำงานใน 3 เดือนที่ผ่านมายังไม่สามารถตอบโจทย์ข้อเรียกร้องของประชาชนได้ ถือเป็นการถ่วงเวลาเพื่อรักษาโครงสร้างเดิม ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงขอให้คะแนนคณะกรรมการฯ 1 คะแนนจาก 10 คะแนน โดย 1 คะแนนที่ได้มาจากความขยัน และความพยายามทำงาน
โดยวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 11.00 น. คป.ตร. พร้อมกับตัวแทนเครือข่าย 42 องค์กร จะเดินทางไปยื่นข้อเสนอและข้อสรุปในการประชุม ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลและผู้ที่แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจขึ้นมาดำเนินงาน