ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
สีเส้นผมเกิดจากเม็ดสีซึ่งรากผมสร้างขึ้นมา ทำให้เส้นผมมีสีต่างๆตามพันธุกรรม ถ้าเม็ดสีมีมากและเข้มข้น เส้นผมจะมีสีเข้ม แต่ถ้าเม็ดสีถูกสร้างมาน้อย สีเส้นผมก็จะอ่อน ระดับของเม็ดสีของเส้นผมจะเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพของร่างกาย ธรรมชาติของสีผมมีทั้งสีดำ เช่นคนเอเชีย สีน้ำตาลและสีบลอนด์ เช่น ชาวตะวันตก สีเส้นผมจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับพันธุกรรม และสีผิวกับสีนัยน์ตา
เส้นผมสีดำนับเป็นสีที่พบมากที่สุดของคนทั่วโลก รองลงมาคือผมสีน้ำตาล ซึ่งพบทั่วไปในทวีปยุโรป เส้นผมสีดำโดยทั่วไปมักจะประกอบด้วยเม็ดสีเข้มข้นน้อยกว่าผมสีอื่นๆ สีดำของเส้นผมโดยธรรมชาติมีหลายเชดสี ตั้งแต่สีดำจัดคล้ายผงถ่าน ดำอ่อน ดำน้ำตาล จนถึงดำน้ำเงิน
ผมสีเทาหรือสีขาว ซึ่งมักเรียกกันว่าผมหงอกหรือหัวหงอก ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์การแพทย์นั้นไม่ได้มีสาเหตุจากการสร้างเม็ดสีขาวแทนเม็ดสีดำ แต่เกิดจากการที่รากผมไม่สร้างเม็ดสี ทำให้เส้นผมไม่มีสี กลายเป็นเส้นผมสีขาวหรือเทาเงินเมื่อสะท้อนแสง เส้นผมสีเทาหรือขาวมักเกิดขึ้นเมื่อคนเรามีอายุสูงวัย แต่ก็สามารถพบได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 10 ปี ด้วยต้นเหตุเดียวกันคือรากผมไม่สร้างเม็ดสีให้เส้นผม ทำให้เส้นผมไม่มีสี ในบางกรณีผมสีเทาอาจเกิดได้จากโรคต่อมไทรอยด์ หรือในคนที่ร่างกายขาดวิตามินบี12
รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า งานวิจัยปี คศ.2005 ในวารสารการแพทย์ พบว่า คนเอเชีย จะเริ่มมีผมหงอกหรือผมขาวตั้งแต่อายุปลาย 30 ปี ส่วนฝรั่งหรือชาวตะวันตกจะพบเส้นผมเริ่มขาวตั้งแต่อายุ 35 ปี แต่ชาวอัฟริกัน-อเมริกันจะพบเส้นผมขาวได้ช้ากว่าเมื่ออายุประมาณ 45 ปี ขึ้นไป ส่วนผู้ที่มีสีผิวและ เส้นผมเป็นสีเผือกนั้นมีสาเหตุจากเม็ดสีทั่วร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นมีน้อยมากนั่นเอง
ความเข้าใจที่ว่าถ้าดึงเส้นผมหงอกออก 1 เส้น ผมหงอกจะงอกขึ้นเป็นทวีคูณ เป็นความเข้าใจที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
ปัจจัยที่มีผลต่อสีผมธรรมชาติ
ดังนั้น ผมหงอก ผมขาว จึงเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิงเมื่ออายุมากขึ้น สาเหตุเกิดจากรากผมไม่ยอมสร้างเม็ดสี ทำให้ผมเกิดเป็นสีขาวเทาเมื่อสะท้อนแสง แต่หากผมหงอก ผมขาวเกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร มักจะมาจากหลายปัจจัย ความเครียด อาหาร กรรมพันธุ์ ต่อมไทรอยด์ ขาดวิตามิน ทำงานหนัก สูบบุหรี่ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ระบุว่ามีโปรตีนเสริมหรือวิตามินใดๆ ที่สามารถเสริมเพื่อชะลอหรือยับยั้งการเกิดผมขาวหรือผมหงอกได้ แต่ก็มีวิธีธรรมชาติๆ ที่พอช่วยได้ค่ะ อย่าง
1.ใช้น้ำมันมะพร้าวหมักผม
น้ำมันมะพร้าวจะช่วยลดปริมาณการสูญเสียโปรตีน ซึ่งโปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างเซลล์ผมให้ดกดำ พร้อมยังช่วยเพิ่มออกซิเจน วิตามิน E ให้เส้นผมแลดูชุ่มชื้นคืนตัวสวยสุขภาพดี วิธีการแค่เพียงชโลมน้ำมันมะพร้าวลงบนศีรษะและนวดคลึงเส้นผม เป่าผมให้แห้ง หมักทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แล้วสระผมออกด้วยแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ ทำแบบนี้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จะผมจะเงางามดกดำค่ะ
2.ไม่สะสมความเครียด
ยิ่งเครียด ผมยิ่งร่วงค่ะ ขณะที่ปัญหาผมหงอก เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเกิดจากอาการเครียดหนัก ยิ่งทำให้ระบบฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เส้นผมไม่สามารถผลิตสีออกมาได้เต็มที่
3.กินอาหารและวิตามิน ช่วยบำรุงเส้นผม
- วิตามินเอ จำเป็นต่อสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมที่แข็งแรง พบทั่วไปในผักใบเขียวเข้ม ผลไม้สีส้มและสีเหลือง
- วิตามินบี ช่วยควบคุมการหลั่งของน้ำมันธรรมชาติเพื่อหล่อลื่นเส้นผมให้เงางามและชุ่มชื้น พบในผักใบเขียว มะเขือเทศ กล้วย โยเกิร์ต และธัญพืช
- แร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี ทองแดง ช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง ได้จากแหล่งอาหาร เช่น เนื้อแดง เนื้อไก่ ไข่แดง อาหารทะเล และธัญพืช
- โปรตีน ช่วยบำรุงให้เส้นผมเงางามและมีความยืดหยุ่นดี ไม่ขาดตอน พบทั่วไปในเนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ ฯลฯ
4.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้นและเพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายปรับสมดุลให้เป็นปกติ ฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บำรุงเซลล์เม็ดสีในเส้นผม ให้กลับมาดกดำอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องเป็นการนอนหลับที่สนิทจริงๆ อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง
5.กระตุ้นการบำรุงเส้นผมด้วยแดดอ่อนๆ
รังสี UV ในแดดที่แรงจัดเกินไป จะทำลายเส้นผมไม่ให้เกิดการผลิตเม็ดสี ทางที่ดีควรเลี่ยงการตากแดดจัด หรือควรใส่หมวก กางร่ม หากต้องเดินฝ่าแดดร้อนจัด กลับกันเส้นผมควรรับแดดอ่อนๆ ตอนเช้าบ้าง เพราะวิตามิน D ในแดดจะช่วยบำรุงผิวหนังศีรษะได้ดี เวลาที่เหมาะสมคือ การรับแดดยามเช้า
6.ออกกำลังกายให้เลือดสูบฉีดหมุนเวียน
การออกกำลังบริหารร่างกายที่ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การโยคะ ยืดกล้ามเนื้อ วิ่งเหยาะๆ หรือแม้กระทั่งการนวด จะช่วยกระตุ้นการทำงานของการผลิตเม็ดสีในเส้นผมได้ดี แนะนำว่าให้บริหารอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3-4 วันต่อสัปดาห์
ขอบคุณข้อมูลจาก pharmacy.mahidol.ac.th
ขอบคุณภาพ จาก men.mthai.com
คอลัมน์ Young ทัน by อรรธจิตฐา วิทยาภรณ์