ปิดปรับปรุงแค่นั้นหรือ?? ฟัง "อ.อ๊อด" มีอึ้ง!!น้ำเสียโรงงานทะลักคลองสุพรรณฯท่วมบ้าน ไร่นา ถึงขั้นก่อภาวะสนิมเครื่องครัว กลิ่นก๊าซไข่เน่าเป็นกรดกระทบระบบหายใจ?!

ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมยังให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่องกรณี ข่าวว่าบ่อบำบัดน้ำเสียในโรงงานแห่งหนึ่งพัง ทำให้น้ำเสียไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 15 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง ในจ.สุพรรณบุรี ซึ่งน้ำมีสีที่น่ากลัว ดำคล้ำคล้ายปนเปื้อนสารเคมีบางอย่าง ทั้งนี้ชาวบ้านต่างแตกตื่นกับปริมาณน้ำที่ทะลักท่วมเข้ามา เพราะนอกจากจะมีรปริมาณมากกว่าปกติแล้ว ยังมีสีน่ากลัว ซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็น

ต่อมาเฟซบุ๊กเเฟนเพจ " แหม่มโพธิ์ดำ" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า " ตอนนี้ชาวบ้านสระบัวก่ำ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เดือดร้อนมาก น้ำเน่าจากบ่อของโรงงานแตกไหลท่วมบ้านเรือนเสียหายเกือบทุกหลังคาเรือน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค2560 เวลาประมาณตี3 ได้เกิดฝนตกหนักมากและบ่อน้ำเสียของโรงงานแห่งหนึ่งได้พังทลาย น้ำไหลท่วมบ้านเรือนเสียหาย และข้าวของภายในบ้านเสียหายมาก ไร่อ้อย นาข้าว ชาวบ้านอยากได้เป็นธรรม และการแก้ไขปัญหาของบริษัทครับไม่รู้มีพิษไหม สีมันน่ากลัวมากเลย"

ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเกิดจากฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนจนเป็นเหตุให้เกิดน้ำป่าไหลลงมาที่บ่อบำบัดน้ำเสียแห่งหนึ่งจนเอ่อล้นลงเข้าท่วมเข้าหมู่บ้าน โดยเบื้องต้นผู้เกี่ยวข้องกำลังประสานกับโรงงานบำบัดน้ำเสียเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้น้ำเสียล้นลงมาเพิ่มเติมอีก พร้อมจัดการตรวจสอบคุณภาพน้ำรวมทั้งการเร่งส่งน้ำดีมาเจือจางและขับไล่น้ำเสียต่อไป

ล่าสุดบนเฟซบุ๊ก Weerachai Phutdhawong ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ นักวิชาการ และอาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความกรณีดังกล่าว่า " น้ำเสีย น้ำกากส่า สีดำๆจากโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ ที่ไหลทะลัก ออกมาจาก โรงงานผลิต ethanol กรณีที่ฝนตก เป็นสารกลุ่มอินทรีย์ซึ่งรอการหมักหมมต่อ สิ่งที่เกิดขึ้นคือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของก๊าซไข่เน่า หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งจะส่งผลให้สภาพความเป็นกรด สูงขึ้นในระดับหนึ่ง ก็ภาวนาให้ฝนตกและทำการเจือจาง ออกจากหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆคือภาวะการเกิดสนิมที่แรงขึ้น กับเครื่องใช้ครัวเรือนของประชาชน และการรบกวนของกลิ่นก๊าซไข่เน่า ซึ่งหากมีความเข้มข้นสูงจะส่งผลต่อสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจในระยะยาว ขอเป็นกำลังใจให้คนในพื้นที่"

ก่อนหน้านั้นนายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย อุตสาหกรรมจังหวัด ปภ.จังหวัด เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนายอำเภอด่านช้าง อำเภอเดิมบางนางบวช และ อำเภอหนองหญ้าไซ ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ตั้งบ่อบำบัดนำเสียของ บริษัท ไทยอะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ขนาดเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ จากพื้นที่รวม 650 ไร่ ก่อนให้ข้อมูลว่าเบื้องต้นได้สั่งปิดโรงงานแห่งนี้เป็นเวลา 45 วัน เพื่อแก้ไขปัญหา และจังหวัดเตรียมประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อหาแนวทางในการเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป

ขณะที่นายสมชาย โล่วิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ยืนยันโรงงานยินดีที่จะปิดปรับปรุงแก้ไข ส่วนความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้ว เพื่อ ช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านอย่างเร่งด่วนเต็มที่ ส่วนนายปราโมทย์ กาฬภักดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.15 ย้ำว่าชาวบ้านเดือดร้อนหนักมาก น้ำสียมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ทำให้ไร่นาเสียหายจำนวนมาก บางคนก็มีผื่นขึ้นตามตัว ที่สำคัญรู้สึกระอากับโรงงานดังกล่าวอย่างมาก เคยไปร้องเรียนหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะมีบ้านเกิดที่นี่ ได้แต่หวัง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาที่เกิดดขึ้นอย่างยั่งยืนสักที