ยายเล่าเรื่องสุดประทับใจ ของ "ในหลวง ร.๙"

ล่วงเลยไปแล้วกับวันที่ปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลา 336 วัน มีประชาชนกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 12,628,642 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินรวม 336 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 882,528,282.01 บาท ถึงแม้ว่าทางสำนักพระราชวังจะปิดไม่ให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อจะดำเนินการจัดเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ แต่ประชาชนชาวไทยก็ยังรัก ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดไป

ทั้งนี้ขอน้อมนำ เรื่องของในหลวงมาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องราวขำๆ น่ารักๆ ที่พระองค์ตรัสให้คนสนิทฟัง สามัญชนคนธรรมดาอย่างเรา ต้องไม่เชื่อแน่ๆว่า ภายใต้พระจริวัตรในการเสด็จเยือนยังทั่วแคว้นแผ่นดินไทย ที่ต้องทรงเยี่ยมพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จะมีเรื่องราวชวนขำเกิดขึ้นกับพระองค์ ถึงขนาดที่ท่านอดสรวล แทบไม่ได้ และเชื่อว่าถ้าทุกคนได้รู้ ต้องอมยิ้ม ตาม ๆ กัน และระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นแน่

“เรียกน้าสิ ยาย”

วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของ ท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย ซึ่งพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาทหลวง ทีนี้ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวง

แล้วหญิงชราท่านั้นก็พูดว่า..ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง แล้วก็พูดกับในหลวงว่ายายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมาย แต่ในหลวงก็ทรงเฉย ๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร

ทีนี่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัยหรือไม่ แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า ” เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิ ถึงจะถูก!

Cr. Emaginfo