ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
หลังจากที่ นักแสดงสาว ทราย อินทิรา เจริญปุระ ได้เปิดใจว่า คุณแม่เป็นโรคซึมเศร้า และตนก็ได้พาคุณแม่ไปอยู่โรงพยาบาลศรีธัญญา จากนั้นเลยเกิดประเด็นดราม่า ที่หลายคนก็ยังคาใจว่า เพราะเหตุใด เธอจึงพาคุณแม่ไปอยู่ที่นั่น ทำไมแค่นี้ถึงดูแลแม่ตัวเองไม่ได้
ซึ่ง เธอได้เขียนประสบการณ์จริงที่เจ้าตัวไปสัมผัสมา พร้อมกับให้คำอธิบายของโรงพยาบาลศรีธัญญาคือโรงพยาบาลเฉพาะทางที่รักษาทางด้านจิตเวช เหมือนโรงพยาบาลเฉพาะทางทั่วไปนั่นเอง
นอกจากนี้ ทราย ยังได้เล่าถึงการที่คุณแม่มาพักรักษาตัวทีนี่อย่างละเอียด ว่า
สปช. สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตเรื่องศรีธัญญากัน ?- เราเข้าใจว่าหลายคนรู้สึกชอบกลกับ”ศรีธัญญา” เราเข้าใจฟีลนะ แต่จริงๆก็เหมือนโรงพยาบาลโรคเฉพาะทางอื่นๆอย่างศูนย์หัวใจ หรือศูนย์โรคมะเร็ง ที่จะมีคุณหมอและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญกับโรคเฉพาะทางนั้นๆ จริงๆโรงพยาบาลรักษาจิตเวชเฉพาะทางที่เป็นเอกชนก็มีค่ะ แต่ไกลบ้านเรามากๆ แต่ก่อนแม่ก็เคยหา หมอเองก็ยังออกปากว่าการเดินทางไกลๆรถติดๆก็สร้างความเครียดทั้งคนไข้และคนพามาเปล่าๆ
ไปอยู่โรงพยาบาลนี่ แม่ต้องผ่านการคัดกรอง การตรวจ คุยกับหมอ ซักประวัติเทียบกันทั้งจากแม่และจากเรา เราโดนซักประวัติ3-4รอบกว่าจะไปถึงวอร์ด(แต่เจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกจุดติดต่อใจเย็นมากๆค่ะ กราบหัวใจเลย) ต้องติดต่อคุณพยาบาลทุกครั้ง ต้องให้เบอร์ติดต่อเพื่อที่พยาบาลจะได้โทรรายงานอาการผู้ป่วยได้ตลอด เพราะการให้ญาติไปเยี่ยมตลอดจะทำให้ผู้ป่วย(ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาเพราะโดนสปอยล์มาจากบ้าน)ยิ่งงอแง หลายคนอาจจะงงว่าทำไมแม่ยอมมา
จริงๆหมออยากให้มาตั้งแต่แม่ขู่ฆ่าตัวตาย ทำร้ายคนในบ้านแรกๆแล้ว แต่ก็นะ...คนเป็นลูกไม่ได้ทำใจง่ายๆ จนหลังๆหนักขึ้นเลยต้องหาบุคคลที่3มาช่วยกันพูด เพราะลำพังกับลูกแม่ดื้อมากๆ ดีว่าแม่มีเพื่อนที่คุ้นกันและแม่ยังจำได้อาสามาเป็นตัวช่วย
แม่อยู่ห้องสะอาดสะอ้านโปร่งโล่งแบบในภาพนี้ค่ะ ห้ามญาตินอนเฝ้า แต่ต้องมีน้องผู้ดูแลพิเศษเฝ้าตลอด24ชั่วโมง ผลัดกันเวรละ8ชั่วโมง อาหารสั่งได้นะคะ(ยกเว้นผู้มีข้อจำกัดทางอาหาร เช่นมีโรคประจำตัว มีกิจกรรมกลุ่มให้แม่พูดคุย ทำอาหาร ห่อขนมจีบ(เรายังบอกแม่เลยว่าจำสูตรไว้ด้วยนะ จะเอามาทำในอร่อยสร้างภาพ)กายภาพฯลฯ ญาติก็ต้องเข้ากลุ่มพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อพูดคุยและรับแนวทางการดูแลต่อหลังจากออกจากโรงพยาบาล คนไข้ก็จะมีอบรมด้วยนะคะ ว่าวิธีปฏิบัติตัวเวลาออกไปอยู่ข้างนอกควรจะเป็นยังไง
แม่อยู่มาอาทิตย์นึงแล้วค่ะ หมอบอกว่าอย่างต่ำต้อง2อาทิตย์ เพื่อสร้างวินัยใหม่ ตอนนี้แม่กินข้าว/กินยา/นอนตรงเวลา(ไม่ดื้อกับพยาบาลเหมือนกับลูกเนาะ555) ร้องไห้น้อยลง การรับรู้วันเวลาดีขึ้นมาก และไม่ค่อยเกรี้ยวกราดแล้ว
รายละเอียดการรักษาและการเข้าเยี่ยมเป็นไปอย่างเคร่งครัด เราหวังว่าแม่จะดีขึ้นเร็วๆ รู้ว่าหวังให้หายเลยมันเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ถ้าแม่จะมีความสุขขึ้น ได้ยิ้มได้คุยเล่นกันบ้าง เราก็ดีใจแล้ว
แนะนำให้มาหาหมอจริงๆนะ เครียด นอนไม่หลับ หรือคุณพ่อคุณแม่ใครเริ่มเข้าสู่วัยปลาย มีนิสัยมีวิถีชีวิตที่แปลกไปก็มาคุยได้ค่ะ ไม่น่ากลัวเลย :)
ขอบคุณภาพ : itr